การทำกับดักงูจะทำเป็นโครงไม้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยไม้ที่ตั้งสูงประมาณ 40 เซนติเมตรกว้าง ประมาณ 30 เซนติเมตร ไม้ที่ทำทำมาจาก ไม้สัก ไม้เนื้อแข็งหรือ ไม้ไผ่ก็ได้ ไม้คู่ที่ตั้งกับพื้นดินตี ประกบไม้อีก 2 แผ่นซึ่งอยู่ด้านบนและด้านล่าง ตรงกลางโครงมีท่อนไม้ขัดไว้ 2 ท่อน ท่อนบนใช้ สำหรับหนีบตัวงู ท่อนล่างใช้สำหรับขัดกับปิ่น ซึ่งทำเป็นเดือยขัดไว้ให้ลั่น การที่จะให้ไม้ท่อนบน ไม้ท่อนบนหนีบตัวงูอย่างแรงนั้นจะต้องมียางยืด เช่น ยางหนังสติ๊ก หรือยางในรถ ยางผูกมัดกับไม้ ท่อนบนและไม้คานด้านล่าง วิธีการใช้กับดักงูผู้ใช้จะต้องมีความชำนาญในการดักงู จะต้องคาดคะเนว่างูจะอาศัยอยู่ บริเวณใดโดยสังเกตจากรอยเลื้อยของงูหรือดูที่คราบของงู ปักกับดักงูไว้ให้แน่นปลายไม้ที่ตอกยืด ถ้าไม้ท่อนบนหลุดก็จะตีกับไม้ท่อนล่างทันที ดึงไม้ท่อนบนซึ่งผูกรัดด้วยยางยืดขึ้นไปด้านบนใช้ปิ่น ขัดกับเดือยไม้ไว้เวลามีงูเลื้อยผ่านกับดัก น้ำหนักของตัวงูทับไม้ที่ขัดไว้กับปิ่น จะทำให้ปิ่นที่ขัดนั้น หลุดจากไม้ท่อนบนๆ จะหล่นลงมาหนีบตัวงูจนแน่น งูไม่สามารถเลื้อยไปไหนได้อีก งูที่ชาวบ้านดัก มักจะเป็นงูเห่า งูสิง เป็นต้น ปัจจุบันไม่มีการใช้กับดักงูอีกแล้ว |