|
|
ประเพณีและวัฒนธรรม
 |
พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงให้ความสนพระราชหฤทัยในการทำนุบำรุงปรับปรุงบ้านเมืองมาโดยตลอด อีกทั้งทรงให้ความสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์พระมหากษัตริย์กับประชาชน ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ทรงพิจารณาเห็นว่าประเพณีบางอย่างที่เคยปฏิบัติกันมาแต่เดิม เช่นห้ามราษฎรเข้าใกล้ชิดเวลาเสด็จพระราชดำเนิน และบังคับให้ราษฎรปิดประตูหน้าต่างบ้านเรือนเป็นประเพณีที่ล้าสมัย จึงโปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิกและอนุญาตให้ราษฎรเข้าเฝ้าโดยสะดวก และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนถวายฎีการ้องทุกข์ได้ในขณะที่เสด็จพระราชดำเนินด้วย ในส่วนราชสำนักทรงมีประกาศให้ข้าราชการสวมเสื้อเข้าเฝ้าตามธรรมเนียมนิยมในอารยะประเทศ ทรงให้ชาวต่างประเทศเข้าร่วมในงานพระราชพิธี และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์เลียนแบบประเทศทางตะวันตกซึ่งนับว่ามีในเมืองไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ ทรงให้ "ยกเลิกประเพณีหมอบคลานเข้าเฝ้า" โดยในวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ ๒ ในปี พ.ศ. ๒๔๑๖ เมื่อเสด็จออกมหาสมาคม เพื่อให้เจ้านาย ข้าราชการ และทูตานุทูตเข้าเฝ้า ได้โปรดเกล้าฯให้ประกาศเลิกประเพณีหมอบคลานและให้ยืนเฝ้าฯ ตามประเพณีตะวันตก
 |
นอกจากนี้ยังทรงให้ "ยกเลิกจารีตนครบาล" ด้วยทรงพิจารณาเห็นว่าวิธีการไต่สวนของตุลาการตามระเบียบที่ใช้อำนาจขู่เข็ญถามจำเลยอย่างทารุณ เช่น การบีบขมับ ตอกเล็บ ซึ่งเรียกว่าจารีตนครบาลนั้นเป็นวิธีการลงโทษที่เกินควรไม่เป็นการยุติธรรม ชาวยุโรปต่างตั้งข้อรังเกียจด้วยเป็นการทารุณไร้อารยธรรม จึงโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศยกเลิกและวางระเบียบวิธีซักฟอกพยานสืบหลักฐานใหม่ทรงแก้ไขดัดแปลงพระราชกำหนดกฎหมายให้ราษฎรได้รับความยุติธรรมเสมอหน้ากัน
|
|
|
|
|