ความใฝ่ฝัน
ความใฝ่ฟันอันสูงสุดของชีวิต
เจ้าของร้านหนังสือค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็คงอยากมีร้านเป็นของตัวเอง
เพราะสำหรับฉันแล้วหนังสือคือชีวิตก็ว่าได้และอีกอย่างไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหนถ้าฉันรู้สึกเหงาขึ้นมา ฉันก็คงมีหนังสือเป็นเพื่อนเสมอเวลาฉันรู้สึกไม่สบายใจหรือรู้สึกเบื่อขึ้นมาถ้าได้หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านก็จะรู้สึกดีได้อย่างประหลาด
ทั้งที่หนังสือนั้นพูดก็พูดไม่ได้แต่ทำไม่พอได้ยู่ด้วยแล้วรูสึกสบายใจได้ก็ไม่รู้ แปลกจริงๆ
และอีกอย่างที่อยากเป็นคือ นักเขียนก็เป็นคนชอบอ่านหนังสือก็เลยอยากแต่งหนังสือให้คนอ่านดูบ้าง
มันคงจะรู้สึกดีพิลึกและก็หวังว่าถ้าใครได้อ่านหนังสือที่ฉันแต่งจะรู้สึกดีเหมือนตอนที่ฉันได้อ่าน
ลักษณะของร้านหนังสือ ก็คงจะต้องเป็นร้านที่มีต้นไม้จัดตกแต่งอย่างร่มรื่นแล้วก็สวยงาม
โทนสีของร้านก็คงจะต้องเป็นสีที่มองแล้วสบายตาอย่างเช่น สีฟ้า สีขาว สีเขียวอ่อนและก็คงจะเป็นสีครามอ่อนๆหน่อยเพราะถ้าสีเข้มเกินไปอาจจะทำให้ภายในร้านดูทึบแล้วก็จะดูหน้ากลัวด้วย
ส่วนของประดับตกแต่งก็คงเป็นรูปที่ดูเป็นศิลป์ ๆหน่อยคงเป็นรูปเกี่ยวกับแนวแฟนตาซีเพราะมันจะทำให้บรรยากาศภายในร้านดูเป็นโลกของจินตนาการเหตุผลง่ายๆคือฉันชอบด้วย
สิ่งที่อยู่ในร้านหนังสือ
หนังสือคือ
....เพื่อนยามเหงาที่สถิตย์อยู่ตามหัวเตียง,ตุ้,โต๊ะชั้นวางหนังสือหรือในห้องน้ำ....
....สิ่งที่รักและหวงแหนยิ่งชีพ สามารถทำให้คุณตัดขาดกับเพื่อนได้ในชั่วข้ามคืน....
....แบล็คโฮลในกระเป๋าสตางค์และกระปุกออมสิน....
....สิ่งที่โหยหายามเมื่อสิ้นเดือนเพราะอาจจะได้แต่มอง....
....สี่งที่ชีวิตคุณขาดไม่ได้ หากขาดเกิน 3 วันจะเริ่มมีอาการลงแดง(หงุดหงิด)...
....และเป็นสิ่งที่เพื่อนต้องทวงจากคุณเป้นประจำ....
และมันก็ยังเป็น....
...เป็นสิ่งที่มีค่ากว่าสิ่งอื่นใด...
....เป็นสิ่งที่ให้ใครแตะต้องไม่ได้(เดี๋ยวยับ)....
....เป็นสิ่งที่มีมากขึ้นทวีคูณในทุกๆเดือน....
.....ไม่สามารถตัดใจที่จะทิ้งได้(เสียดาย).....