Ran khaa ya
     
:: กลับสู่หน้าหน่วยการเรียน ::
ตัวชี้วัด
กาแล็กซี่
เนบิวลา
ระบบสุริยะ
แบบฝึกหัดระหว่างเรียน
 

กาแล็กซี่


         เอกภพมีการขยายตัวมาตั้งแต่ครั้งที่มีกระเบิดครั้งใหญ่ครั้งแรก (original great explosion) สสารที่เกิดขึ้นจากการระเบิดในครั้งนั้นคือ สิ่งที่เป็นหมู่เมฆระหว่างดาว (interstellar clouds) ที่ประกอบด้วยก๊าซและธุลี ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ต่าง ๆ ในปัจจุบันนี้ สสารและเทห์ฟากฟ้าทั้งหมดดังกล่าว
ไม่ได้กระจายออกไปในห้วงอวกาศโดยสม่ำเสมอเท่ากัน หากแต่ออกไปเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ กาแล็กซี่ (galaxy) ซึ่งเป็นที่อยู่ของระบบสุริยะประเภทของกาแล็กซี่ (TYPE OF GALAXY

         บรรดากาแล็กซี่ที่ประกอบด้วยดาวฤกษ์จำนวนมากมายมหาศาลนั้นสามารถจำแนกได้หลายประเภท บ้างก็กลม (round) บ้างก็รีอยางรูปไข่ (elliptical) บ้างก็แบนหรือนูนอย่างรูปเลนส์ (flat or lens-shaped) บ้างก็เป็นรูปเกลียวก้นหอย (spiral) ที่มีแขนยื่นออกมาจากใจกลางซึ่งเป็นที่ที่ดาวฤกษ์ส่วนมากอยู่ในนั้นจำนวน 2 แขนหรือมากกว่านั้นการตั้งชื่อกาแล็กซี่ก็คล้ายกับการตั้งชื่อหมู่ดาวฤกษ์และหมู่เนบิวลาที่ใช้อักษรหนึ่ง
ตัวกับตัวเลขอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ ผู้ที่ได้จำแนกกาแล็กซีเป็นคนแรกคือ ซี. แมสเซียร์ (C. Messier) นักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศส และนั่นคือเหตุผลที่ว่าเหตุใดชื่อของหลายกาแลกซีจึงขึ้นต้นด้วยอักษรเอ็ม (M) เหมือนกันและตามด้วยตัวเลขอีกจำนวนหนึ่งการประทะกันของกาแล็กซี (THE COLLOSION OF GALAXY)

        เนื่องจากกาแล็กซีมีจำนวนมาก ส่วนใหญ่คุมกันเป็นกลุ่มเฉพะที่ (local group) และต่างอยู่ค่อนข้างจะใกล้ชิดกัน ดังนั้นจึงมีการ "ปะทะ" กันบ่อย ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันก็คือเมื่อกลุ่มกาแล็กซ
ีเคลื่อนเข้ามา ใกล้กับอีกกาแล็กซีหนึ่งจนได้ระยะ ความโน้มถ่วงแบบดึงเข้าหาตัว (gravitation pull) ของแต่ละกาแล็กซีในกลุ่มกาแล็กซีนั้นก็จะเริ่มดึงดูดดาวฤกษ์ดวงที่อยู่ไกลสุดของอีกกาแล็กซีที่มันเคลื่อนเข้าหา และยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งแรงขึ้น ซึ่งในที่สุดก็เป็นผลให้กาแล็กซีนั้นต้องสูญเสียดาวฤกษ์ไปให้กลุ่มกาแล็กซีทีละดวงสองดวง ในกรณีที่ปะทะกันหนัก มวลของดาวฤกษ์ของทั้งสองฝ่ายที่ปะทะกันก็จะก่อให้เกิดกาแล็กซี่ใหม่ขึ้นมาอีก 1 กาแล็กซี
การขยายตัวของเอกภพ (EXPANSON OF THE UNIVERSE)ข้อพิสูจน์การขยายตัวของเอกภพ (expansion of the unierse)

        ข้อหนึ่งก็คือข้อเท็จจริงที่ว่ากาแล็กซีจำนวนมากที่ประกอบกันขึ้นเป็นเอกภพนั้นกำลังเคลื่อนที่ห่างออกไปจากกันและกัน การสังเกตการณ์จากโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกาแล็กซีหนึ่งนั้นพบว่ากาแล็กซีอื่น ๆ กำลังเคลื่อนห่างออกไปจากเรา และยิ่งเคลื่อนที่ห่างออกไปก็ยิ่งมีความเร็วเพิ่มขึ้น บรรดากาแล็กซี่ที่อยู่ริมนอกของเอกภพเป็นพวกที่ได
้ก่อเกิดขึ้นก่อนเป็นพวกแรก หรืออีกนัยหนึ่งเป็นพวกที่มีอายุน้อยที่สุด และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเกือบเท่าความเร็วแสง ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดที่เป็นไปได้ท่านจะวัดความเร็วของกาแล็กซีได้อ่างไร ?(HOW DO YOU MEASURE A GALAXY'S SPEED?)ในการวัดความเร็วของดาวฤกษ์ดวงหนึ่งของกาแล็กซีหนึ่งนั้น นักวิทยาศาสตร์ใช้สิ่งที่เรียกว่า ปรากฏการณ์ดอปเปลอร์ (Doppler Effect) โดยหลักการที่ว่าเมื่อเทห์ฟากฟ้าเคลื่อนที่ห่างออกไปจากเรา ถ้าแสงของมันยิ่งแดงมากขึ้นก็แสดงว่ามันยิ่งเคลื่อนที่เร็วขึ้น ในทางกลับกัน ถ้ามันเคลื่อนที่เข้ามาหาเราแสง
ฅ ของมันจะเป็นสีน้ำเงิน เช่นเดียวกับเสียงหวูดรถไฟที่กำลังวิ่งเข้าหาเราจะมีเสียงแหลมขึ้น ๆ แต่ถ้ากำลังวิ่งออกห่างไปจากเราจะมีเสียงที่ค่อย ๆ ทุ้มต่ำลง ๆ

1. กาแล็กซีกลมรี หรือแบนเป็นรูปเลนส์นูน

2.กาแล็กซีเกลียวหรือก้นหอย มี 2 ลักษณะคือ
2.1 ก้นหอยธรรมดา กาแล็กซีของเราก็เป็นรูปร่างนี้

2.2 ก้นหอยแบบมีคานหรือมีแกน มีแขนยื่นออกมาจากใจกลางเป็น กาแล็กซี่ที่หมุนเร็วที่สุด

3.3 กาแล็กซี่ไร้รูปร่าง เป็นกาแล็กซี่ขนาดเล็ก ๆ นักดาราศาสตร์ จำแนก กาแล็กซี่เป็นประเภทต่าง ๆ คนแรกคือ ชี แมสเชียร์ ชาวฝรั่งเศส


   
   
   
เว็บไซต์นี้ แสดงผลได้ดี บนความละเอียด 800x600Text Size Medium
การออกแบบเว็บไซต์กับการพัฒนาชีวิต วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ ง42202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครสวรรค์ เขต 1
   
SITEMAP นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายการคืนสินค้า
กฎของร้าน