แคบหมู    

     แคบหมู เป็นอาหารพื้นบ้าน ของชาวล้านนาไทย การทำแคบหมู เป็นวิธีการแปรรูป และถนอมอาหาร ที่เกิดจาก ภูมิปัญญาชาวบ้าน สืบทอดกันมา เป็นเวลาช้านาน แคบหมู นิยมใช้เป็นของฝาก เมืองเหนือที่มีคุณค่า ทั้งผู้ให้ และผู้รับ และเป็นผลผลิต จากการนำหนังหมู มาผ่านกรรมวิธีการทอด จนได้ลักษณะกรอบ พอง มีกลิ่นหอม รสกลมกล่อม ใช้รับประทาน เป็นอาหาร ประเภทเครื่องเคียง กับน้ำพริกเมืองเหนือและแกงคั่วต่างๆ แคบหมู เป็นวิธีการแปรรูป และถนอมอาหาร อย่างหนึ่งโดยนำหนังหมู มาผ่าน กรรมวิธี การทอด จนได้ลักษณะ การพอง กรอบ

เนื้อหมูแดดเดียว
เนื้อหมูแดดเดียวเป็นการถนอมอาหารโดยการทำให้แห้ง ซึ่งอาจจะใช้เนื้อวัว หรือเนื้อหมูสด มาหั่นเป็นชิ้นแล้วคลุกกับส่วนผสม ซึ่งอาจจะมีเกลือ น้ำตาล และน้ำปลา เพื่อป้องกันการเน่าเสีย นำไปตากแดดให้แห้ง แล้วจึงนำมาเก็บในภาชนะที่สะอาด และมิดชิด เก็บในที่แห้งและเย็น

เนื้อสวรรค์

       เนื้อสวรรค์ จะใช้เนื้อได้ทุกส่วนส่วนผสมอื่นๆ ใช้ในอัตราส่วนเท่ากันกับการทำหมูสวรรค์แต่จะใส่ทั้งงา-เม็ดผักชี
และใส่สีผสมอาหารสีแดงลงไปเล็กน้อยถ้าไม่ใส่เนื้อจะมีสีคล้ำ ไม่น่ารับประทานแต่ถ้าเป็นหมูสวรรค์จะต้องเลือกว่าจะใส่งาหรือเมล็ดผักชี อย่างใดอย่างหนึ่งหรือจะไม่ใส่ทั้งสองอย่างเลยก็ได้หากลูกค้าต้องการ

ทอดมัน

.        ผสมเนื้อปลาขูดกับน้ำพริกแกงเผ็ดให้เข้ากัน นวดจนเหนียว ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาลทราย นวดให้เหนียวอีกครั้ง ใส่ใบกะเพราะ ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อน นำทอดมันลงทอดเป็นชิ้นๆจนสุกเหลือง รับประทานคู่กับน้ำจิ้ม

ปลาเค็ม

ปลาน้ำจืดเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย มีด้วยกันหลายชนิด เช่น ปลานิล ปลาดุก ปลาช่อน ฯลฯ ซึ่งปลาเหล่านี้ปัจจุบันปริมาณความต้องการของผู้บริโภคมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้รูปแบบการเลี้ยงปรับสู่ระบบพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคแต่มีปลาอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการบริโภคอย่างแพร่หลายเช่นกัน แต่รูปแบบการเลี้ยงที่พบเห็นโดยทั่วไป ส่วนใหญ่ยังเป็นระบบธรรมชาติ

น้ำพริกนรก

       โขลกหอม กระเทียม ให้ละเอียด ใส่กุ้งแห้งป่นโขลกต่อไปจนเข้ากันดีจึงใส่พริกขี้หนูป่น โขลกรวมกันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
ใส่มะขามเปียกสับละเอียดลงโขลกรวมให้เข้ากัน ใส่กะปิโขลกต่อไปจนดูเป็นเนื้อ
ละเอียดเข้ากันหมด ชิมดูรสดี ตักขึ้นจากครก นำลงไปผัดในกระทะไฟไม่ต้องแรง (ถ้าไฟแรงจะติดกระทะและไหม้) ไม่ต้องใส่น้ำมัน ผัดให้หอม ใส่น้ำปลาชิมให้มี 3 รส เผ็ดนำตามด้วยเค็มและเปรี้ยว
รสดีแล้วยกลง พอเย็นตักใส่ภาชนะเก็บไว้รับประทานได้นาน

น้ำพริกปลาย่าง

แกะเนื้อปลาย่าง จากนั้น นำเนื้อปลาย่างไปทอดคั่วพริกแห้ง
เผาหอม กระเทียมสุก แกะเปลือกออกโขลกหอม พริก กระเทียม เข้าด้วยกัน สับมะขามเปียกให้ละเอียด จากนั้นใส่เกลือและมะขามเปียกที่สับไว้ โขลกให้ เข้ากันใส่ปลาย่าง โขลกให้น้ำพริกเข้ากับปลาย่างเมื่อเสร็จแล้ว สามารถนำไปรับประทานกับผักสด ผักต้ม และไข่เจียวได้

ที่มา:http://www.ismed.or.th/SME/src/bin/controller.php?view=knowledgeInsite.KnowledgesDetail&p=&nid=&sid=69&id=654&left=84&right=85&level=3&lv1=3
http://www.pompernpong.net/board/index.php?topic=179.0
http://www.archeep.com/food/fd_nam_prig_narog.htm