Ran khaa ya
   
 
หน้าแรก
ที่ตั้งอำเภอเก้าเลี้ยวและความเป็นมา
ขนาดพื้นที่และอนาเขต
ลักษณะภูมิประเทศ
การคมนาคม
แหล่งน้ำที่สำคัญ
ประชากรและการปกครอง
ประวัติอำเภอเก้าเลี้ยว
แผนที่อำเภอเก้าเลี้ยว
แหล่งท่องเที่ยว
อาจารย์ที่ปรึกษา
คณะผู้จัดทำ
  แหล่งท่องเที่ยว
           อำเภอเก้าเลี้ยวมีแหล่งท่องเที่ยวคือวัดพระหน่อธรณินทร์ใกล้วารินคงคาราม(วัดเขาดินใต้) ซึ่งวัดนี้รัชการที่ 5 เคยเสด็จประภาสต้น และเคยสนทนากับหลวงพ่อเฮง  ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวง พ่อเดิมและเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่  ที่ชาวอำเภอเก้าเลี้ยวให้ความเคารพเป็นอย่างมาก  มีตำนานเล่า ว่ามีชาวลับแลอาศัยอยู่ในถ้ำใต้วัด  กล่าวกันว่าเคยมีราษฎรที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงได้ยินเสียง ดนตรีไทย  ซึ่งมีความไพเราะมากดังมาจากถ้ำนั้นด้วย

        วัดพระหน่อธรณินทร์ใกล้วารินคงคาราม
        สร้างขึ้นเมื่อ  พ.ศ.  2375 ในสมัยนั้น  มีพระครูเป็นเจ้าอาวาสวัดมหาโพธิใต้ ตั้งเลขที่ 1  บ้าน  เขาดินใต้  หมู่ที่ 6  ตำบลเขาดิน  อำเภอเก้าเลี้ยว  จังหวัดนครสวรรค์  อยู่ห่างจากตัวอำเภอ เก้าเลี้ยว    ประมาณ  14  กิโลเมตร  และห่างจากจังหวัดนครสวรรค์     ประมาณ  17  กิโลเมตร  วัดนี้ได้ขึ้นทะเบียนวัดในนาม  “ วัดพระหน่อธรณินทร์ “ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี  พ.ศ.  2387  สังกัด คณะสงฆ์มหานิกาย  มีที่ดินตั้งวัดจำนวน  6  ไร่

             ปี พ.ศ. 2449  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5  เสด็จประพาสต้นเมือง กำแพง  และวัดพระหน่อธรณินทร์ฯ  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงถ่าย       ทอดเรื่องราวความเป็นมาของวัดในพระนิพนธ์ตอนหนึ่งว่า  “ ไล่เลียงเรื่องวัดนี้ได้ความว่าพระครูหลา อยู่วัดมหาโพธิเริ่มสร้างวัดนี้ได้  80  ปีมาแล้ว  และได้ปฏิสังขรณ์วัดต่อๆ  กันมา “ พระองค์เสด็จประพาสต้นวัดนี้เมื่อวันที่  28  สิงหาคม  พ.ศ.  2449  ( ร.ศ.125 )  นับถึง ปัจจุบันเป็นเวลาเก้าสิบกว่าปีมาแล้ว  แต่ก่อนที่พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินมาวัดเขาดินใต้วัดนี้ สร้างมาแล้ว  80  ปี  ดังนั้นวัดนี้จึงสร้างมานานกว่าหนึ่งร้อยเจ็ดสิบปีแล้ว

ถ้ำลับแล

                   หลังชมทิวทัศน์อันสวยงามแล้วเดินไปทางทิศเหนือตามสันเขาไปยังเขาอีกลูกหนึ่ง ห่างจากยอดเขามีโบสถ์ประมาณ 10 เมตร จะทำทางแยกไปยังถ้ำ บริเวณปากถ้ำมีหินก้อนใหญ่สองก้อนว่างเรียงกันอยู่ ก้อนหินใหญ่นั้นเคยหิดปากถ้ำไว้ตั้งแต่ครั้งใดไม่ปรากกหลักฐาน  แต่ถูกเปิดออกเมื่อ  พ.ศ.  2531  โดยปากถ้ำมีขนาดกว้าง  1.5  เมตร  ณ  ถ้ำแห่งนี้  ตามตำนานเล่าสืบทอดกันมาว่า  เป็นที่อยู่ของชาวลับแล  วันดีคืนดีชาวหัวเขา (ชาวบ้านที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ทางทิศเหนือเขา) จะได้ยินเสียงปี่พาทย์บรรเลงเพลงไพเราะจับใจมาก  ซึ่งผิดกับเสียงปี่พาทย์ที่ชาวบ้านบรรเลง ยังมีเรื่องเล่าอีกว่าเมื่อจะจัดงานบวช  งานแต่งงานหรืองานอื่นๆ  ที่เป็นงานใหญ่  ซึ่งต้อง ใช้เครื่องครัวเป็นจำนวนมาก  เช่น  หม้อ  ถ้วย  ชาม เป็นต้น  ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงจะไปขอยืม เครื่องครัวจากชาวลับแลที่บริเวณปากถ้ำ  การขอยืมเครื่องใช้จะมีพิธี  โดยผู้ที่จะไปขอยืมเครื่องครัว จากชาวลับแลและต้องบอกวัตถุประสงค์  จำนวนของที่จะยืมที่ปากถ้ำ  และกำหนดวันที่จะมารับของ ให้ชาวลับแลทราบ  ครั้นเมื่อถึงเวลานัดรับของ ของที่ชาวบ้านขอยืมนั้นจะตั้งอยู่ที่ปากถ้ำตามจำนวนที่ต้องการและเป็นเรื่องเล่าอีกเช่นกันว่า  ชาวบ้านที่ขอยืมของไปส่งของคืนให้ไม่ครบตามจำนวนที่ยืมเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขั้นเป็นประจำจนทำให้ชาวลับแลไม่พอใจ    จึงปิดปากถ้ำ  ไม่ให้ชาวบ้านยืมของ อีกต่อไป  ชาวบ้านจึงยืมของไม่ได้ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา  ถึงแม้ว่าปัจจุบันถ้ำจะถูกเปิดแล้วก็ตาม

 ที่มา: http://chaiwbi.com/0drem/web_children/c495000/totol2549/c495102/495107/102.htm                                    

 
   
 
   
เว็บไซต์นี้ แสดงผลได้ดี บนความละเอียด 1024 x 768 Text Size Medium
สร้างสรรค์โดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2552
โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม อ.เมือง จ.นครสวรรค์
   
SITEMAP นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายการคืนสินค้า
กฎของร้าน