มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เซลล์เจริญ(แบ่งตัว) อย่างผิดปกติ การที่เซลล์เปลี่ยนสภาพไปจากปกติจะไม่อยู่ในการควบคุมวัฏจักรการแบ่งตัว รุกรานเนื้อเยื่อข้างเคียง หรืออาจแพร่กระจายไปยังที่อื่น ๆ (การแพร่กระจายของเนื้อร้าย) มะเร็งทั้งหมดยกเว้นมะเร็งเม็ดเลือดขาวจะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อ
มะเร็งเกิดขึ้นได้โดยสารพันธุกรรมหรือยีนซึ่งควบคุมการทำงานของเซลล์ผิดปกติไป โดยที่ความผิดปกติของสารพันธุกรรมนั้นเป็นผลมาจากสารก่อมะเร็ง อาทิ ยาสูบ ควัน รังสี สารเคมีอย่างอื่น หรือ เชื้อโรค ยีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมะเร็งอาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่จำเพาะเจาะจงระหว่างการทำสำเนาของดีเอ็นเอ หรืออาจถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ซึ่งสามารถตรวจพบได้ในทุกเซลล์หลังจากคลอด การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของมะเร็งนั้นได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอย่างอื่นๆ ด้วย
มะเร็งกำเนิดจากเซลล์ร่างกายที่สามารถแบ่งเซลล์ได้วิวัฒนาการจนไม่สามารถควบคุมได้ มีกระบวนการวิวัฒนาการโดยการเปลี่ยนแปลงของโครโมโซมนั้นๆทำให้ผลิตเอนไซม์มาสร้างทีโลเมียในเซลล์อย่างไม่หมดสิ้นทำให้เซลล์ไม่สามารถหยุดแบ่งเซลล์ได้ เพิ่มเติม ทีโลเมียเปรียบเหมือนนาฬิกาทีนับถอยหลังไปเรื่อยๆขณะนั้นเซลล์ยังสามารถแบ่งเซลล์ต่อไปโดยทีโลเมียจะหดสั้นลงเรื่อยๆและเมื่อสายทีโลเมียหมดก็จะทำให้เซลล์หยุดแบ่งตัวทำให้มนุษย์ไม่สามารถอยู่ยงคงกระพันต้องหยุดเจริญเติบโต แต่ทีโลเมียของเซลล์มะเร็งไม่หดสั้นลงทำให้เติบโตโดยควบคุมหยุดยั้งไม่ได้
อาการ
|
1. ไม่มีอาการใดเลยในช่วงแรกขณะที่ร่างกายมีเซลล์มะเร็งเป็นจำนวนน้อย
2. มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญาณอันตราย 8 ประการ ที่เป็นสัญญาณเตือนว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อการตรวจค้นหาโรคมะเร็ง หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้มีสัญญาณ เหล่านี้ เพื่อการรักษาและแก้ไขทางการแพทย์ที่ถูกต้องก่อนที่จะกลายเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นมะเร็งระยะลุกลาม
3. มีอาการป่วยของโรคทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ร่างกายทรุดโทรม ไม่สดชื่น และไม่แจ่มใส
4. มีอาการที่บ่งบอกว่า มะเร็งอยู่ในระยะลุกลาม หรือเป็นมาก ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมะเร็ง ชนิดใดและมีการกระจายของโรคอยู่ที่ส่วนใดของร่างกายที่สำคัญที่สุดของอาการในกลุ่ม นี้ ได้แก่ อาการเจ็บปวด
สัญญาณอันตราย 8 ประการที่ทุกคนควรจะจำไว้เพื่อสุขภาพที่ดี ได้แก่
1.มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายอุจจาระ และปัสสาวะ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ หรือปัสสาวะเป็นเลือด
2. กลืนอาหารลำบาก หรือมีอาการเสียด แน่นท้องเป็นเวลานาน
3. มีอาการเสียงแหบ และไอเรื้อรัง
4. มีเลือดหรือตกขาวที่ผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็น
5. แผลซึ่งรักษาแล้วไม่ยอมหาย
6. มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามร่างกาย
7. มีก้อนที่เต้านมหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
8. หูอื้อหรือมีเลือดกำเดาไหล
ชนิดของมะเร็ง มะเร็งสามารถเกิดได้ในทุกอวัยวะของร่างกาย (ยกเว้น ผม ขน ฟัน และเล็บ ที่งอกออกมาแล้วเท่านั้นที่ไม่เป็นมะเร็ง) มะเร็งจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปตามชนิดของเซลล์ หรือเนื้อเยื่อต้นกำเนิด เพื่อความเข้าใจง่ายจึงแบ่งมะเร็งหรือเนื้องอกชนิดร้ายออกเป็น 2 พวกใหญ่ ๆ คือ
1. มะเร็งของเยื่อบุ (คาร์ซิโนมา) ทั้งเยื่อบุภายนอกและภายใน เช่น มะเร็งของเยื่อบุช่องปาก เยื่อบุทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ เยื่อบุมดลูก รวมทั้งผิวหนังด้วย มะเร็งพวกนี้พบได้บ่อย และมีลักษณะเฉพาะตัว คือ มักจะมีการแพร่กระจายไปทางกระแสน้ำเหลืองก่อนทางกระแสเลือด ฉะนั้น จึงมีโอกาสรักษาให้หายได้ง่าย ทั้งโดยวิธีผ่าตัดหรือรังสีรักษา
2. มะเร็งของเนื้อเยื่อ (ซาร์โคมา) เช่น มะเร็งของกล้ามเนื้อ ไขมัน ระบบประสาท กระดูก ฯลฯ มะเร็งพวกนี้มักจะมีการแพร่กระจายไปทางกระแสเลือดได้เร็ว และโดยเฉลี่ยแล้วจะพบในคนอายุน้อยกว่าคนที่เป็นมะเร็งเยื่อบุ
|
การรักษา
ในปัจจุบันมีใช้กันอยู่ 6 วิธี คือ
1. การผ่าตัด
2. รังสีรักษา รังสีที่ใช้รักษาโรคมะเร็งมี 2 กลุ่มใหญ่ คือ รังสีโฟตอน และ รังสีอนุภาค
3. การใช้สารเคมีบำบัด
4. การใช้การรักษาทั้ง 3 วิธีกล่าวมาแล้วร่วมกัน
5. การรักษาโดยการเสริมภูมิคุ้มกัน
6. การรักษาทางด้านจิตวิทยา
วิธีป้องกัน
1. เลือกอาหารที่มาจากพืช
2. รับประทานผักและผลไม้เพิ่ม
3. รักษาน้ำหนักที่เหมาะสมและออกกำลังกายเป็นประจำ
4. ลดการดื่มสุราและสูบบุหรี่
5. เลือกรับประทานอาหารที่มีปริมาณไขมันต่ำ
6. ปรุงอาหารอย่างถูกต้อง
7. การถนอมอาหาร จะช่วยป้องกันการโรค
8.การใช้ครีมป้องกันแสงแดดโดยเฉพาะตอน 10.00-15.00 น โดยใช้ครีมที่มี SF อย่างน้อย 15
9.ไม่สำส่อนทางเพศ
สถิติโรคมะเร็งที่พบบ่อย
อันดับที่
|
เพศชาย
|
เพศหญิง
|
๑
|
มะเร็งช่องปาก
|
มะเร็งปากมดลูก
|
๒
|
มะเร็งตับ
|
มะเร็งเต้านม
|
๓
|
มะเร็งปอด
|
มะเร็งช่องปาก
|
๔
|
มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
|
มะเร็งผิวหนัง
|
๕
|
มะเร็งกระเพาะอาหาร
|
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
|
๖
|
มะเร็งหลอดอาหาร
|
มะเร็งตับ
|
๗
|
มะเร็งโพรงหลังจมูก
|
มะเร็งรังไข่
|
๘
|
มะเร็งผิวหนัง
|
มะเร็งมดลูก
|
๙
|
มะเร็งกล่องเสียง
|
มะเร็งลำไล้ใหญ่และทวารหนัก
|
๑๐
|
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
|
มะเร็งปอด
|
ที่มาของข้อมูล : www.nci.go.th/Knowledge/index.html
http://th.wikipedia.org/wiki/
http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK9/chapter6/chap6.htm
ที่มาของภาพ : http://www.smj.ejnal.com/e-journal/showdetail/?show_detail=T&art_id=276
http://www.apijit.com/content.asp?pageid=Mw&directory=MTY0&parent=MA&lang=&content=MjE0
|