รำโทน

ประวัติความเป็นมาของรำโทน 
          รำวง เป็นศิลปะการเล่นพื้นบ้าน โดยมีผู้เล่นยืนรำเป็นวงอาจยืนอยู่กับที่หรือเดินรำเรียงกันไปเป็นวงหรือเป็นคู่ๆระหว่างชายกับหญิงก็ได้มีดนตรี หรือร้องเพลงประกอบการรำ ดนตรีที่นิยมใช้ประกอบการรำวงในระยะแรกนั้นนิยมใช้โทน ตีประกอบซึ่งเสียงโทนจะเป็นเสียงที่เร้าใจ สนุกสนานมีเสียงชัดเจน   ดังนั้นจึงนิยมเรียกรำนี้ว่า   รำโทน
          รำโทน   นิยมเล่นในฤดูเทศกาลต่างๆเฉพาะท้องถิ่นในบางจังหวัด ต่อมาได้มีผู้นำไปเล่นในท้องถิ่นอื่นๆอย่างกว้างขวาง และมิได้เล่นเฉพาะเทศกาลแต่ยังนำไปเล่นในทุกโอกาสที่มีงานรื่นเริง บทร้องส่วนใหญ่มีความหมายเชิงหยอกเย้า ชมโฉม รำพันรักระหว่างหนุมสาว และบทลาจากกัน

          บทร้องไม่พิถีพิถันในเรื่องถ้อยคำและสัมผัสในช่วงระะยะเวลาที่รำโทน เป็นที่นิยม กันอย่างแพร่หลายประมาณ พ.ศ. 2484-2488 
ก็มีบทเพลงใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆบทเพลงเก่าบางเพลงก็เสื่อมความนิยมลงบทเพลงใดที่มีความ ไพเราะกินใจก็ยังจดจำกันต่อมาและยังนิยมร้องกันอยู่   เช่น เพลง   ใกล้เข้ามาอีกนิด   ช่อมาลี   ตามองตา   หล่อจริงนะดารา   ลอยกระทงเป็นต้น             
           รูปแบบของท่ารำวงหรือรำโทนนี้ไม่มีท่ารำที่เป็นแบบแผนแน่นอนลักษณะ ท่าทาง การรำขึ้น อยู่กับความพอใจของผู้รำและอารมณ์สนุกสนานในขณะนั้น             ตำบลตะคร้อเป็นท้องถิ่นหนึ่งที่ี่นิยมการละเล่นรำโทนมาเล่นในเทศกาล สงกรานต์   เทศกาลทำบุญก่อพระทราย   และเทศการต่างๆ
          การรำโทนของชาวบ้านตะคร้อมีเนื้อเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ทางด้านสำเนียงการร้อง มีความหมายที่สะท้อนถึงลักษณะความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของคนรุ่นตารุ่นยายในสมัยก่อนในเรื่องศิลปวัฒนธรรมที่ทำชื่อเสียงให้กับตำบลตะคร้อ  

          ดังนั้นพวกเราในฐานะเยาวชนคนรุ่นใหม่จะต้องช่วยกันสืบสานอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านรำโทนตะคร้อให้คงอยู่ต่อไป คำร้องรำโทน
วิธีเล่น แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เมื่อนักดนตรีขึ้นเพลงแล้ว ฝ่ายชายจะไปโค้งฝ่ายหญิงให้ออกมารำ การรำนั้นก็จะเป็นวงกลมเป็นคู่ๆ แล้วแสดงท่ารำไปตามจังหวะของเพลงและเนื้อร้อง เมื่อจบเพลงหนึ่งแล้วนักดนตรีก็จะขึ้นเพลงต่อไป
โอกาสในการเล่น เล่นงานชุมนุมรื่นเริงต่างๆ หรืองานนักขัตฤกษ์ เช่น วันสงกรานต์

ประโยชน์ที่ได้รับ เพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินและเพื่อสมานไมตรีระหว่างชาวบ้าน

ตัวอย่างเพลงรำวงประกอบบท

          1. เพลงกาเหว่า กาเหว่าบินมาลอยล่อง กาเหว่าบินมาลอยล่อง ไม่ใช่คู่ครองฉันมองละเมอ ยืนเฉยใครเลยจะไม่เก้อ ยืนเฉยใครเลยจะไม่เก้อ ไม่ใช่คู่เธอละเมอแลมอง

          2. เพลงชักชวนสาวงาม ชักชวนสาวงาม ฟ้อนรำถวายเจ้าพ่อ อนิจจารูปหล่อ รูปหล่อยักคิ้วข้างเดียว เอาเรือเข้าไปรับขากลับกระไรน้ำเชี่ยว รักเธอคนเดียว น้ำเชี่ยวก็ต้องพายไป น้ำเชี่ยวก็ต้องพายไป

           3. เพลงดาวเคียงเดือน อยู่ในดงหลงชมแต่ดอกไม้ อยู่ในดงหลงชมแต่ดอกไม้ สัญญาว่าไว้ว่าจะไม่ลืมกัน พบรักคนใหม่ก็ชื่นใจก็ไหมเล่า พบรักใหม่ก็ชื่นใจก็ไหมเล่า มาลืมรักเก่าเสียเมื่อดาวเคียงเดือน ดาวเคียงเดือน เตือนหัวใจให้หมอง เจ็บใจยิ่งนักคนรักใจสอง เจ็บใจยิ่งนักคนรักใจสอง เฝ้าแต่แลมองไม่รู้ว่าใคร

         4. เพลงไตรรงค์ ไตรรงค์เป็นธงชาติไทย ถ้าแม้นผู้ใดใครมาย่ำยี ชาติใดใครมาข่มขี่ ชีวิตเรามีรักษาเอาไว้ รักกัน รักกันรักให้มั่นอย่าให้มีสองใจ เลือดเนื้อเป็นเชื้อชาติไทย รักกันไว้ศาสนาถาวร

         5. เพลงไทรย้อย ไทรย้อยห้อยระย้า ลมพัดมาถลาลอยลิ่ว นั้นต้นพยุงสูงลิ้ว โน่นต้นพยุงสูงลิ้วเป็นทิวมา สองคนเดินเล่นชมสวนเก็บดอกลำดวนกระดังงา นั่นดอกอะไรเธอจ๋า โน่นดอกอะไรเธอจ๋า หอมชื่นใจ

           6. เพลงปักเป้า ปั๊กเป้าบินถลาล่องลม ชื่นชมกระเซ้ากระซิก ปั๊กเป้าส่ายหางดุ๊กดิ๊ก ปั๊กเป้าตัวนิดแผลงฤทธิ์น่ารัก ยักหนึ่งยักสองยักยัก ชายใดพะวงหลงรัก หลงรักมักจะล่มจม

           7. เพลงสวนลุมพินี โอ้สวนลุมพินี น้องกับพี่เคยไป สัญญาฝากรักกันไว้ ว่าต่อไปจะไม่ลืมเลือนจากกันไปหนึ่งแรมวัน เหมือนเราจากกันไปหนึ่งแรมเดือน จากไปหัวใจยังเตือน คิดถึงเพื่อนที่ในสวนลุม สวนลุมเป็นหลุมหล่อรัก หัวอกจะหักไม่ว่าสาวและหนุ่ม วันไหนไม่ได้ไปสวนลุม หัวอกฉันกลุ้มสวนลุมใจปอง

           8. เพลงสาวน้อยเอวกลม สาวน้อยเอวกลม ไว้ผมดัดลอนดัดคลื่น ใส่น้ำมันหอมรื่น สวมแต่หมวกใบลาน แต่งตัวทันสมัยสาวไทยแบบหลวงพิบูล หิ้วกระเป๋าจันทบูร แม่คุณจะไปไหนกัน ฉันจะไปดูโขน ฉันจะไปดูหนัง (ซ้ำ) มานั่งรถรางไปด้วยกัน