Ran khaa ya
     
 

                                                       

                                                         รูปแบบการป้องกันของฟุตซอล


                 ยุทธศาสตร์การป้องกันคือการพยายามไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามทำประตูฝ่ายเราได้ หรือให้ทำประตูฝ่ายเราได้น้อยที่สุด ซึ่งฝ่ายเราจะต้องจัดทีมให้เล่นทั้งแบบความสามารถเฉพาะตัวและแบบร่วมกันเป็นทีม เพื่อป้องกันการทำประตูดังกล่าวให้ได้ ดั้งนั้นป้าหมายประการแรกก็คือ ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถเล่นไปสู่ตำแหน่งที่ได้เปรียบในการทำประตูด้วยยุทธศาสตร์การป้องกัน

          กลยุทธ์ทุกอย่างที่จะนำมาใช้เพื่อให้บรรลุยุทธศาสตร์นี้ก็คือ การใช้ปัจจัยทางยุทธวิธีที่ดีระบบการป้องกันขั้นต้อนจะเป็นการควบคุมพื้นที่ ผู้เล่นแต่ละคนต้องควบคุมพื้นที่ของตนในสนามอย่างไม่พะวักพะวนต่อการเล่นของฝ่ายตรงข้าม ทุกวันนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ทีมชั้นนำของโลกทั้งหลายได้นำเอาระบบการเล่น แมนทูแมน หรือ แมน ออน แมน (man to man or man on man) ผสมผสานระบบการเล่นแบบการควบคุมพื้นที่มาใช้ ถึงแม้ว่าระบบการเล่นประกบตัวต่อตัวนี้จะเป็นการเล่นที่ดีสำหรับการป้องกันและค่อนข้างง่ายสำหรับการเรียนรู้ก็ตามแต่ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนว่าการเล่นแบบการประกบตัวผสมผสานกับการเล่นแบบคุมพื้นที่ทำให้มีความได้เปรียบมากกว่าและผสมผสานประหยัดพลังงานได้ดีกว่า โดยเฉพาะตัวสูงอยู่จำนวนมากพอ

     ในการที่จะผสมผสานการเล่นแบบคุมพื้นที่ให้เข้ากันได้ดีกับการเล่นแบบประกบตัวต่อตัวได้นั้นจำเป็นต้องใช้การฝึกฝนอย่างหนักและใช้การประสานงานในการป้องกันระหว่างตัวผู้เล่นในทีมด้วยการเล่นที่ง่ายที่สุดคือการเล่นแบบประกบตัวต่อตัวไม่ใช่การผสมผสานแบบการคุมพื้นที่ การที่จะทำเช่นนี้ได้นั้นควรจะจัดระบบการเล่นแบบเฉพาะตัวและระบบร่วมกันทั้งทีม เพื่อการป้องกันว่าจะทำได้อย่างไรขั้นต้นต้องพิจารณากันก่อนว่า จะต้องใช้ผู้เล่นแต่ละคนพยายามสกัดกั้นผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามให้ได้ เพราะฉะนั้นจึงมีความสำคัญอย่างมากที่จะกำหนดว่าในระบบการเล่นแบบการประกบตัวต่อตัวนี้ผู้เล่นแต่ละคนของทีมรับสกัดผู้เล่นของอีกทีมหนึ่งโดยจะต้องมีความสามารถไม่แพ้คู่ต่อสู้ด้วยแต่ถ้าความสามารถเฉพาะตัวสู้ไม่ได้ก็ควรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นใหม่อย่ารวดเร็วในความเป็นจริงเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้หลายๆครั้งในแต่ละเกม เมื่อเป็นเช่นนั้นการผสมผสานทุกสิ่งทุกอย่างให้เข้ากันได้ก็จะเป็นไปได้ดีขึ้น การที่นักกีฬาที่มีความสามารถเฉพาะตัวน้อย แต่สามารถเสริมสมรรถภาพทางกายจนสามารถปฏิบัติการได้เป็นอย่างดีย่อมดีกว่านักกีฬาที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากความสามารถในเชิงปฏิบัติต่ำ หรือการที่เขามีความเก่งกาจที่สุดเพราะมีทั้งความสามารถเฉพาะตัวและความสามารถในเชิงปฏิบัติย่อมไม่ยากที่จะเป็นนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ได้ ความแตกต่างของความนึกคิดทั้ง 2 ประเภทนี้มีความสำคัญมาก ผู้ฝึกสอนจะต้องกำหนดให้ได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อไรที่สมควรที่จะใช้ผู้เล่นที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูงมากที่สุดคนใดลงเล่นเพื่อให้สามารถปฏิบัติการจนบรรลุเป้าหมายได้ และใครคือผู้เล่นที่มีความสามารถที่ดีที่สุดในเชิงปฏิบัติการ ถ้ากลับไปดูเรื่องที่ท้าทาย นั่นคือระบบการเล่นแบบการประกบตัวต่อตัว
                การกระทำเช่นนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ ประการแรก ผู้เล่นต้องมีความมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามที่เขาต้องประกบตัวเล่นได้ดีกว่าตัวเอง สิ่งนี้เป็นความประสงค์สูงสุด เพราะถ้าสามารถทำได้สำเร็จตลอดเวลา เกมการเล่นก็จะไม่มีความสมดุลเกิดขึ้น แต่ไม่น่าสงสัยเลยว่าการเล่นแบบการประกบตัวต่อตัวนี้ ถ้าผู้เล่นคนใดผิดพลาด คู่ต่อสู้ก็จะสามารถสร้างโอกาสในการรุกเพื่อทำประตูได้มากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการด้วยกลยุทธ์อื่นๆ ในความพยายามที่จะกู้สถานการณ์กลับคืนมาให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ และต้องทำให้สำเร็จก่อนที่คู่ต่อสู้จะประสบผลสำเร็จในการใช้โอกาสที่มากกว่าเข้าทำประตูเสียก่อน ในขณะที่เราไม่มีเวลามากนัก จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่นักกีฬาแต่ละทีมจะต้องรู้จักใช้ความสามารถในการเล่นแบบประกบตัวต่อตัวให้คล่องแคล่วขึ้น อันเป็นเรื่องที่ควบคู่กันกับการเล่นแบบรุกและการโต้กลับด้วย
                ผู้เล่นทุกคนต้องมีความเข้าใจว่าเป้าหมายของการเล่นแบบนี้ไม่เพียงแต่จะต้องขัดขวางไม่ให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามทำการรุกได้สำเร็จเท่านั้น แต่ยังต้องพยายามขัดขวางการครอบครองลูกบอลหรือการเลี้ยงลูกบอลของฝ่ายตรงข้ามให้มีความยากลำบากยิ่งขึ้นอีกด้วย
การป้องกันไม่ได้จำกัดไม่ได้จำกัดอยู่ที่ผู้เล่นตัวสุดท้ายเท่านั้นผู้เล่นทุกคนในสนามจะต้องสามารถเล่นเกมรับได้ เช่น ผู้เล่นตัวเป้าสามารถเล่นเกมรับโดยการประกบผู้ล่นตัวสุดท้ายของฝ่ายตรงข้าม
                การที่นักกีฬาต้องมีความทุ่มเทอย่างแท้จริง ก็มีความสำคัญต่อระบบการป้องกันเช่นกันซึ่งไม่ได้ถูกจำกัดว่าจะต้องเป็นผู้เล่นคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ กีฬาฟุตซอลสมัยใหม่ต้องการผู้เล่นที่ทำหน้าที่ทำได้ในหลายตำแหน่งถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ผู้เล่นบางคนเก่งในการยิงประตูผู้เล่นบางคนก็เก่งในการส่งและรับลูกบอล แต่ความคิดที่ผู้เล่นที่สามารถเล่นผสมผสานได้อย่างแท้จริงอยู่ในทีมของตนเอง วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเล่นแบบการประกบตัวต่อตัวอย่างเดียวไม่เพียงพอ การกระจายผู้เล่นให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในสนามทุกด้านให้ได้มากที่สุด บางครั้งรวมถึงผู้รักษาประตูด้วยจะต้องทำให้ได้ในทำนองที่สามารถขัดขวางการบุกของฝ่ายตรงข้ามทุกวิถีทาง ดังนั้นควรบีบพื้นที่กลางสนามให้แคบและเป็นอุปสรรคต่อคู่ต่อสู้ไว้ก่อน เพราะพื้นที่ตรงนี้มักจะเป็นแหล่งกำเนิดของความเป็นไปได้มากมายในการทำประตู เพราะฉะนั้นจึงได้มีการเอารูปแบบของการปิดกั้นพื้นที่กลางสนามมาใช้ โดยการประกบและสร้างความกดดันฝ่ายตรงข้ามที่ครอบครองลูกบอลอยู่ โดยกองหน้าฝ่ายตรงข้ามอาจวางผู้เล่นไว้ 3 หรือ 2 คนก็ได้ ขึ้นอยู่กับการว่าเขามีแผนการอย่างไรหรือขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าฝ่ายตรงข้ามมีผู้เล่น 3 คนในแดนหน้า ให้กดดันผู้เล่นที่เล่นลูกบอลอยู่ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามผ่านลูกบอลมาตรงกลาง ผู้เล่นคนสุดท้ายของกรณีหลังนี้ ต้องยืนอยู่ในตำแหน่งที่จะถึงลูกบอลก่อน และการประกบตัวต่อตัวต้องกระทำแบบคล่องแคล่วว่องไว ถ้าผู้เล่นคงสุดท้ายสามารถเข้าถึงลูกบอลก่อน ก็สามารถสร้างโอกาสที่เหนือกว่า ซึ่งก็คือการรุกที่มีประสิทธิภาพ ตามแผนการเล่นนี้จะมีทางเลือกที่หลากหลาย คือจะสร้างความกดดันก็ได้หรือการประกบตัวในแดนของฝ่ายตรงข้ามก็ได้ หรือผู้เล่นบางคนจะประกบตัวผู้เล่นอีกฝ่ายในระยะห่าง 2-3 เมตร ก่อนแดนของตัวเองก็ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์โดยเฉพาะ จึงมีการใช้การเปลี่ยนตัวอย่างต่อเนื่องที่ทำกันอย่างมีระบบ สำหรับการประกบกดดันผู้เล่นลูกบอลคนสุดท้ายไว้โดยผู้เล่นของฝ่ายตนเองที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่โดยพื้นฐานแล้วแผนการเล่นเช่นนี้จะเป็นงานหนักในการที่จะประสานงานกันให้เข้ากับการเปลี่ยนทิศทางของลูกบอลที่ต่อเนื่อง จึงได้เปลี่ยนมาเป็นการเล่นแบบประกบตัวต่อตัว ไม่จำเป็นต้องประกบตัวผู้เล่นนั้นตลอดเวลา เพียงแต่ว่าการประกบตัวต่อตัวต้องประสานงานกันให้ดีทั้งทีมเพื่อให้พื้นที่กลางสนามถูกปิด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องพยายามทำให้ได้ง่าย การเคลื่อนที่รวดเร็วและไม่ตายตัวของนักกีฬาฟุตซอลทำให้ระบบการป้องกันที่ใช้อยู่ต้องปรับให้เข้ากับระบบการรุกของคู่ต่อสู้ ถ้าผู้ต่อสู้ทำเกมรุกในลักษณะหนึ่ง เราก็ต้องเปลี่ยนลักษณะการประกบตัวต่อตัวของเราให้ทันในลักษณะนั้น
                นอกจากนั้นหากทีมของเราเป็นผู้เริ่มทำเกมรุกก่อนเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบหรือเพียงแต่ว่าการทำเกมรุกย่อมดีกว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นระบบการตั้งรับอาจจะไม่ต้องพิถีพิถันนักก็ได้ ผู้รักษาประตูเป็นตำแหน่งที่สำคัญระดับพื้นฐานของกีฬาฟุตซอล ทุกทีมจำเป็นต้องมีการวางแผนกรเล่น ผู้ฝึกสอนจะต้องค้นหาระบบการป้องกันที่ทำงานได้อย่างเหมาะสม ต้องคัดเลือกที่มีความในการทำหน้าที่ของตนเองได้ดีที่สุด และต้องทำงานมนด้านความสามารถเฉพาะตัวและทำงานร่วมกันในเวลาเดียวกันได้ กีฬาฟุตซอลก็เหมือนกีฬาอื่นๆ เป็นกีฬีที่ใช้ศิลปะในการรุกและการป้องกันที่ดี

   
     
   
เว็บไซต์นี้ แสดงผลได้ดี บนความละเอียด 1024x768 Text Size Medium
วิชา การพัฒนาเว็บไซต์เพื่อจัดทำโครงงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2554
โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42

   
SITEMAP นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายการคืนสินค้า
กฎของร้าน