ความรูสึก
เคยเจอพลังงานอะไรไหม
ไม่ค่อยมีนะ มันก็มีบ้างบางครั้ง เดี๋ยวๆเล่าให้ฟัง เดี๋ยวค่อยเล่า
แล้วศพคนที่ตาย สาเหตุอะไรเป็นหลัก
คนน่ะเหรอ มันหลายสาเหตุ มะเร็ง ทุกอวัยวะ อุบัติเหตุก็เยอะ คนแก่ก็เยอะ
ศพไหนที่เราทำ แล้วลำบากใจ สะเทือนใจที่สุด
ศพจมน้ำ ไม่ใช่เชิงสะเทือนใจหรอก แต่สภาพศพมันไม่สวยไง มันไม่น่ามอง
เคยทำศพจมน้ำไหม
เคยไปช่วยเขาทำ จมน้ำตายอะ งมกว่าจะหายเจออะ หาตั้งหลายวัน เน่าตาย แบบโหว น้ำเหลืองเต็มเลย แพ็คใส่ถุง
แล้วเอาใส่โลงเย็น โลงเย็นก็ไม่ค่อยเย็นอีก โอ้โห แล้วอีตอนวันเผานะ แทบจะไม่มีคนไม่ช่วยวนเมรุเลย แบกก็ต้องไปช่วยเขา
แบกอะ น้ำเหลืองมันย้อย เหมะ เหมะ เหมะ เหมะ ตามทางเนี่ย โลงยังเก็บไม่อยู่เลย จะแตกอยู่แล้ว พอยกขึ้นเมรุเท่านั้นแหละ
เปิดฝาโลงอะ มันยิ่งกว่ากลิ่นอะไรทั้งสิ้นเลย กลิ่นคนเนี่ย
แล้วมีศพเด็กอะ ที่ตกน้ำตาย (ญาติช่วยถามขึ้นมา)
อันนั้นศพเด็ก คนละรูปร่างกันเลย อีตอนที่ยังไม่จมน้ำนะ เป็นเด็กนะ ตัวไม่โตหรอก พอจมน้ำแล้วโอ้โหตัวเบอเร่อเลย
หน้านี่เขียวเลย หน้านี่เขียวเลย บวมอืดอย่างนั้นอะ ศพพวกนี้ต้องแช่โลงเย็น ยันเผาเลย ห้ามเอาออกเป็นเด็ดขาด ต้องเสียบ
ปลั๊กโลงเย็นคาไว้เลยไม่งั้นอยู่กันไม่ได้ ศพพวกนี้มันต้องมีเทคนิคในการเอาไว้ บางทีก็ต้องเอาน้ำมันก๊าด เอาผ้าห่มห่อศพไว้
ดับกลิ่น แต่ที่เคยทำมาเนี่ย เอาถ่านใส่ เอาการบูรใส่ เอาเหล้า โอ... ทุกอย่าง ฟักหอมใส่ แล้วเวลาเอาออกจากโลงเย็น ต้อง
ซีนเลยนะ ที่เป็นสติ๊กเกอร์ใส่ ปิดให้หมดเลย ไม่งั้นกลิ่นมันจะออกมา
เคยเจอประสบการณ์แปลกๆไหม ประทับใจ จาก 200 กว่าเคสที่ผ่านมา
ประทับใจหลายอย่างนะ บางงานก็เจ้าภาพก็ดูแลเราดีนะ ทุกอย่างเลย คอยช่วยเรา มีอะไร อยากจะได้อะไร ก็บอก
เจ้าภาพคำเดียวเลย จนปัจจุบันก็เวลาถ้าสมมติ ไปกรุงเทพก็จะมีลูกหลานของคนที่อยู่แถวนี้ แล้วไปอยู่กรุงเทพถ้าเราไปทำ
อะไรกรุงเทพ ก็ไปพักบ้านเขาเลย คือ เขาดูแลเราเต็มที่เลย เพราะเราเคยช่วยเหลืองานศพพ่อเขา ที่เชียงใหม่ก็มี แต่เป็นญาติ
ของเพื่อน ไปช่วยเขาเผาศพ จนปัจจุบันเขาก็ตามหาให้ไปเที่ยวหาที่บ้านไปนอนไปกินอยู่บ้านเขาเลย เขาเป็นกำนันอยู่ที่ดอยเต่า
ไปนอนที่ไหนก็ไปได้ มีคนรู้จักกัน
แล้วมีเรื่องราวเกี่ยวกับการทำศพที่ประทับใจ แปลกๆ ที่คนทั่ว ไปไม่น่าจะรู้หรือปาฏิหาริย์
อันนั้นไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์ ไม่ใช่เรื่องประทับใจ เป็นเรื่องเฮฮาไปละก็มีผีซ้อนท้ายจักรยานก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมาก
(หัวเราะพร้อมกัน) ก็เขาตายที่โรงพยาบาลเก้าเลี้ยวเนี่ยแหละ ก็เอาศพไปไว้วัด ใส่รถเพื่อนขึ้นไป รอบแรกก็เริ่มจะฮาแระ เรียก
ขึ้นรถแล้วลืมเรียกลง รถก็แล่นกลับบ้าน มีคนเห็นนั่งบนรถไป เขาก็วนกลับมาวัดอีก ลืมเรียกวิญญาณลงจากรถ ก็ไปเรียกลง
จากรถเสร็จปุ๊บ พอตกกลางคืนก็ถีบจักรยานกลับบ้าน ประมาณดึกละ เกือบๆเที่ยงคืนได้ ขี่จักรยานมา พอพ้นกำแพงวัดจักรยาน
มันก็หนักๆไง เราก็เอามือไปคลำดูบนเบาะข้างหลังว่ามีคนซ้อนป่าว ก็ไม่มีก็แหงนไปดู ก็ไม่มีใคร ก็จอดจักรยานหมุนล้อไปดู
ก็ไม่มีใคร ก็เลยเอะใจ รู้แล้วล่ะ สงสัยจะซ้อนมาแน่เลย ก็เลยพูดลอยๆว่า
เอ้า ถ้าแกจะมาก็ซ้อนท้ายมานะ เดี๋ยวผมก็ไปส่งแค่หน้าบ้านผม ที่เหลือก็เดินต่อเอาเอง ก็ขี่มาเนี่ย ขึ้นถนนใหญ่ หมาก็หอนกัน สนุกสนาน พอมาถึงหน้าบ้านก็จอดจักรยาน บอก เอ้า ถึงบ้านผมแล้ว แกลงนะ เดินต่อไปเอา แล้วพอประมาณตี 3 ที่
บ้านงานน่ะ บ้านของคนตาย น้องสาวได้ยินเสียงคนล้างหน้าที่บ้าน ก็เรียกชื่อ ปรากฏว่าไม่ใช่เสียงคนที่อยู่ ก็จำได้ว่าเป็นเสียง
คนที่ตายตอบมา ตอนเช้าเขาก็เลยไปถามที่วัด เมื่อคืนมันกลับบ้านเนี่ย ก็หัวเราะกันฮาเลย ก็บอกว่า อยากรู้ไหมล่ะว่ากลับไง ผมก็เลยบอกว่า ผมมาส่งหน้าบ้านผมเนี่ย เที่ยงคืนแล้วเขาก็คงเดินต่อไปถึงบ้าน ประมาณตี 3เป๊ะเลยเนี่ยเวลานี้
อยากรู้ความรู้สึกเวลาทำงานแต่ละศพเป็นอย่างไรบ้าง
ก็ไม่รู้สึกยังไงอะ เฉยๆ รู้สึกว่าปกติ มันชินไปซะแล้ว
ตั้งแต่เริ่มยันจบเลยเหรอ
รู้สึกเหนื่อยบางที มันทำมาเยอะแล้ว มันก็เลยรู้สึกเฉย
งั้นขอถามความรู้สึกในการทำศพแรกหน่อย
ศพแรกนี่ก็ตื่นเต้น เพราะว่าไม่เคยทำอะนะ ครูก็มอบวิชาให้ แล้วครูก็ไม่มา ทำเองคนเดียวเลย ตื่นเต้น กลัวทำผิดพิธี
เขาจะด่าเอา ศพอายุประมาณ 60 กว่าๆ เราก็ยังเด็กอยู่
แล้วเรื่องหมอขวัญทำอะไรยังไง ไปทำได้อย่างไร
หมอขวัญนี่ ตาเพื่อมหัดให้ เขาเป็นญาติกับแม่ เขาบอก มึงเอาไปนะ เดี๋ยวกูตายแล้ว ไม่มีใครต่อ ก็เลยหัดไว้ ไป
ทำได้ 3-4มั้งนะ แล้วตาคนที่เป็นครูก็ตาย ทีนี้ก็เหลือคู่หูอยู่คนนึง คู่หูนี่ก็ตอนนี้ 78 (ฮา)ไปทำงานแต่ง ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด
ทำมาเยอะยังคะ
หูว.. เยอะ ไม่ได้จดหรอก แต่งานศพเยอะกว่า คนเหล่านี้ไม่ค่อยแต่งกันแล้ว พาไปอยู่ด้วยกัน ท้องกันป้อแป้หมดแล้ว
ถ้าถามความรู้สึกการทำหมอขวัญกับการเป็นสัปเหร่อ ต่างกันไหม อย่างไรบ้าง
ต่างสิ ถ้าจะเอาสนุกเฮฮา มันต้องงานแต่ง แต่งานศพมันก็เฮฮาอะไรไม่ได้ไง มันยังมีลูกล่อลูกชนได้ไงงานแต่ง แต่งาน
ศพมันต้องเป็นทางการ เรียบร้อยหน่อยนึง นี่ก็กลัวพูดผิดเหมือนกันแหละ เป็นโฆษก งานศพงานแต่งก็สลับกันไปกันมา ไหน
จะรดน้ำสังข์ ไหนจะหลั่งน้ำศพ โอ้โห
มีแบบวันนี้งานศพแล้วพรุ่งนี้งานแต่งไหม
โอ้โฮ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก จะเล่าให้ฟัง มีอยู่งานหนึ่ง เผาศพเสร็จวันนี้ เย็นนี้ไปซื้อดอกไม้มาจัดงานแต่ง วันเดียวกัน
จัดเสร็จ รุ่งขึ้นเช้าอีกวันก็ทำพิธีทำขวัญบ่าวสาว เสร็จปุ๊บ แล้วก็เป็นพิธีกรให้คู่บ่าวสาวเสร็จ หลังจากนั้นก็ต้องเปลี่ยนอีกยูนิฟอร์ม
นึง ไปเคลื่อนศพอีกบ้านนึง เอามาเผา วันเดียวกัน สองหนแล้ว
ช่วยอธิบายยูนิฟอร์มหน่อยงานศพ กับ งานแต่ง
มันคนละอย่างกัน งานแต่งก็เป็นเสื้อดอกๆ กางเกงยีนส์ งานศพก็เป็นชุดซาฟารี รองเท้าหนัง ชุดสีดำ (ระหว่างสัมภาษณ์
มีเสียงแซวจากญาติว่า งานศพเขาหล่อ ) เปลี่ยนบางทีวันนึง3 ชุด บางวันก็เก็บกระดูกตอนเช้าเสร็จ ก็ไปงานแต่งต่อ บางที
ก็ตายคู่กันเลยนะ ที่เพิ่งเผาไปเนี่ย ตายสามโมงคนนึง ห้าโมงเย็นก็ตายอีกคนนึง ไว้วัดคนนึง ไว้บ้านคนนึง ก็วิ่ง สลับกันเอา
เคยทำมากที่สุดที่ผ่านมา 4 คน อาทิตย์เดียว ติดๆกันเลย เพิ่งเผาเสร็จไปเนี่ยไม่กี่วัน
พิธีศพเราอยู่แค่วันเดียว หรือต้องอยู่ทุกวันเลย
ทุกวันเลย มี 3 วัน 4 วัน ขึ้นอยู่กับเจ้าภาพ บางคนก็ 2 วัน เจ้าภาพไม่มีเงินก็เผา ชาวบ้านช่วยกัน
|