ประวัติเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์
พระเทพปริยัติเมธี ชุมธรรมปากน้ำโพ
จังหวัดนครสวรรค์ มากมายด้วยวัดวาอารามและสถานที่ปฏิบัติธรรม ที่วัดนครสวรรค์หรือ "วัดหัวเมือง" แห่งนี้ปรากฏนามพระดีที่ชื่อ "พระเทพปริยัติเมธี" พระมหาเถระที่ชาวเมืองนครสวรรค์ศรัทธาเลื่อมใส เป็นสมณะที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม บำเพ็ญคุณูปการแด่คณะสงฆ์มากมาย ปัจจุบันพระเทพปริยัติเมธี (สฤษฏิ์ สิริธโร) สิริอายุ ๕๑ พรรษา ๓๑ ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์
อัตโนประวัติ
มีนามเดิมว่า สฤษฏิ์ ประธาตุ เกิดเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๑ ที่บ้านห้วยร่วม ต.ห้วยร่วม อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ โยมบิดา-มารดา ชื่อนายเรือง และนางลำพูน ประธาตุ ครอบครัวเดิมมีอาชีพทำการเกษตร ในช่วงวัยเยาว์เริ่มต้นศึกษาที่โรงเรียนวัดห้วยร่วม จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๗ ก่อนเข้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๑๔ ณ วัดห้วยร่วม อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ในช่วงระหว่างเป็นสามเณรท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม ที่สำนักศาสนศึกษาวัดห้วยร่วม พ.ศ.๒๕๑๗ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก กระทั่งอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๑ โดยมีพระครูนิรุติธรรมธร (หลวงพ่อสวาสดิ์) วัดห้วยร่วม เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ที่วัดราชบูรณะวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯพ.ศ.๒๕๓๒ สามารถสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค ต่อมาท่านได้ย้ายกลับไปอยู่จำพรรษาที่วัดนครสวรรค์ เข้ามาช่วยงานบริหารจัดการภายในวัด เริ่มด้วยการเป็นเจ้าคณะ ๓ วัดนครสวรรค์ คอยดูแลงานทั่วไปของพระภิกษุสามเณร พ.ศ.๒๕๓๒ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ.๒๕๓๓ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการรองเจ้าคณะภาค ๔พ.ศ.๒๕๔๐ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ และพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.๒๕๔๑ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ฝ่ายศาสนศึกษา พ.ศ.๒๕๔๖ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ จนถึงปัจจุบัน
ด้านการศึกษา
ด้านการศึกษาทางโลก สำเร็จการศึกษาระดับมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวรสาขาการบริหารการศึกษา และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สาขาวิชาพระพุทธศาสนา หลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๓๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีวิสุทธิคุณ พ.ศ.๒๕๔๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัติ โดยในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ ได้รับพระราช ทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปริยัติเมธี พระเทพปริยัติเมธีมีความสามารถในหลากหลาย ทั้งในด้านปริยัติแลปฏิบัติ ท่านมีความสามารถในการสวดพระปาติโมกข์ มีความชำนาญในการใช้คอมพิวเตอร์ มีความชำนาญในด้านนวกรรม ควบคุมการก่อสร้าง การอ่านแบบแปลนการก่อสร้าง และความสามารถในการแสดงพระธรรมเทศนา ปาฐกถาธรรม บรรยายธรรมนอกจากนี้ ยังดำรงตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ศูนย์ศึกษาวัดนครสวรรค์ เป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์วิทยบริการมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.นครสวรรค์ และเป็นคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสถานศึกษาอีกมากมาย ในเขตพื้นที่การศึกษานครสวรรค์และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
ผลงานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
เจ้าประคุณได้เป็นผู้นำการจัดพิธีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เชิญชวนพระภิกษุ-สามเณรและประชาชนมาร่วมพิธีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อบรมธรรมะให้แก่ประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ ยังได้บรรยายธรรมะทางวิทยุกระจายเสียง และเชิญชวนประชาชนปฏิบัติธรรม สวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ธรรมะแก่ส่วนราชการต่างๆ
ด้านสาธารณูปการ
ท่านได้ดำเนินการก่อสร้างศาลาอเนกประสงค์ อาคารอเนกประสงค์ ตั้งจุดปฏิบัติการเรียนรู้วิทยุชุมชนเพื่อการศึกษา ที่สำคัญที่สุดอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง คือ โครงการก่อสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์ ประกอบด้วย วัดภัทรสิทธาราม วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ อาคารพระเทพญาณมุนี อาคารหอสมุดสวรรค์บรรณาคาร อาคารวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ ฯลฯ ด้วยกำลังบริจาคของชาวเมืองนครสวรรค์ พระเทพปริยัติเมธีได้สร้างผลงานวิชาการ ที่ได้รับการพิมพ์ออกมาเผยแผ่มีมากมาย เช่น งานวิจัยและวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนา การพัฒนาจิตเจริญปัญญาตามแนวสติปัฏฐาน ๔ อารามหลวง ภารกิจและนโยบายคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ ระเบียบปฏิบัติคณะทำงานตามนโยบายและแผนคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้นสำหรับการพัฒนาวัดนครสวรรค์ ท่านยังได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดนครสวรรค์ให้ดูโปร่ง โล่ง สะอาด นอกจากนี้ ท่านให้ความเอาใจใส่บริหารจัดการดูแลคณะสงฆ์อย่างทั่วถึง ด้วยการออกตรวจเยี่ยมไปตามวัด ตามอำเภอต่างๆ จนครบทั้ง ๑๕ อำเภอ อีกทั้งเอาใจใส่ในด้านการศึกษาของพระสงฆ์เป็นพิเศษ โดยส่งเสริมให้พระสังฆาธิการและพระสงฆ์ในสังกัดให้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก พร้อมทั้งจัดหาทุนการศึกษาให้พระสงฆ์ทุกรูปและรับบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กยากจน เด็กที่มีความบกพร่องทางกายเป็นประจำทุกปี พระเทพปริยัติเมธีได้สร้างผลงานที่เป็นประโยชน์แก่พระศาสนา และสังคมทั่วไป
ได้รับรางวัลมากมาย อาทิ
พ.ศ.๒๕๔๗ ได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร
พ.ศ.๒๕๔๘ ได้โล่เกียรติคุณศิษย์เก่าดีเด่นมหา วิทยาลัยนเรศวร
พ.ศ.๒๕๔๙ ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยภาคกลาง
พ.ศ.๒๕๕๐ ได้รับเกียรติบัตรศิษย์เก่าดีเด่น เนื่องในงาน "๖๐ ปี อุดม ศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" และได้รับโล่ผู้มีผลงานดีเด่นจากกระทรวงวัฒนธรรม เป็นต้น
พระเทพปริยัติเมธีเคยปรารภว่า "การส่งเสริมความรู้ให้ทั้งบรรพชิตและฆราวาสอย่างทั่วถึง เป็นสิ่งที่ดี พระภิกษุ-สามเณรที่มีความรู้ทางธรรมจะช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน ส่วนชาวบ้านที่มีความรู้จะได้ใช้วิชาความรู้ทำมาหากินและช่วยทำให้ชาติบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง"
พระเทพปริยัติเมธีเป็นพระดีอีกรูปหนึ่งที่ชาวเมืองนครสวรรค์ให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นแบบอย่างที่ดีในความเรียบง่าย เป็นพระนักพัฒนา นักปกครอง และนักการศึกษาผู้เสียสละ
|