ชื่อหัวเรื่องเว็บหน้าที่ 3
ครู อาจารย์
วิชาชีพครูมีความสำคัญต่อมนุษย์มานับตั้งแต่อดีต ด้วยความจริงที่ว่า
ครูคือผู้ที่ให้วิชาความอีกทั้งยังสั่งสอนศาสตร์แห่งการกำเนิดชีวิตอันถูกต้องดีงามให้แก่เรา
ถึงกับมีคำกล่าวว่า ครูคือพ่อ แม่ คนที่สองของเรา คนจะดีได้ก็เพราะมีครูดี
แต่ในปัจจุบันนี้เรากลับพบว่า ผู้คนในสังคมให้ความสำคัญแก่วิชาชีพนี้น้อยลง
คุรุศาสตร์และศึกษาศาสตร์คืออะไร
ครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการศึกษา และวิชาชีพครูประกอบด้วย วิชาหลักสามส่วนคือ
1. วิชาเกี่ยวกับหลักสูตรและการสอน
2. วิชาเกี่ยวกับการบริการพิเศษทางการศึกษา เช่น การบริหารการศึกษา การแนะแนวการศึกษา
เทคโนโลยีการศึกษา
3. วิชาเกี่ยวกับพื้นฐานการศึกษาเช่น พื้นฐานทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม
พื้นฐานการศึกษาทางประวัติศาสตร์ ปรัชญาและศาสนา
จุดมุ่งหมายของศาสตร์คือ
กำเนิดการและแสวงหาวิธีการพัฒนามนุษย์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างสรรค์สังคมที่สันติสุขอย่างแท้จริง
หลักสูตรการเรียนการสอน
ในหลักสูตรการศึกษาเพื่อปริญญาตรีทางศึกษาศาสตร์และคุรุศาสตร์ โดยทั่วไปจะใช้ระยะเวลาการศึกษาตามปกติ
4 ปี ซึ่งสามารถเลือกเรียนในสาขาวิชาเอกได้ตามความถนัดและความสนใจดังนี้
- การศึกษาปฐมวัย เน้นที่วิชาชีพครูสำหรับสอนเด็ก อายุต่ำกว่า 6 ขวบ
- ประถมศึกษา เป็นสาขาวิชาเพื่อเตรียมครูสำหรับโรงเรียนระดับประถมศึกษา
- มัธยมศึกษาเป็นสาขาวิชาเพื่อเตรียมครูสำหรับโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา
- การสอนวิชาเอกเฉพาะ เป็นสาขาวิชาเพื่อเตรียมครูวิชาเฉพาะเช่นพละศึกษา
- การศึกษานอกระบบโรงเรียน เป็นสาขาวิชาเพื่อเตรียมบุคลากรทางการศึกษานอกระบบโรงเรียน
- สาขาบุคลากรทางการศึกษา
เป็นสาขาวิชาเพื่อเตรียมบุคลากรทางการศึกษาสำหรับโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านเทคโนโลยีทางกา
รศึกษา จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว
เส้นทางการศึกษา
เสันทางการศึกษา ก่อนเข้าสู่การประกอบอาชีพครู อาจารย์ คือ เมื่อจบชั้น ม. 3
แล้วเลือกศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในแผนการเรียนใดก็ได้หลังจากนั้นก็สอบคัดเลือกเข้าเรียนต่
อในสถาบันอุดมศึกษาที่เปิดสอนคณะครุศาสตร์ หรือคณะศึกษาศาสตร์ หรือหลักสูตรสาขาวิชาการศึกษา
สถานที่เปิดสอน
สถาบันที่เปิดสอนเช่นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.เกษตรศาสตร์ ม. ขอนแก่น ม.สุโขทัยธรรมาธิราช
และสถาบันราชภัฏทั่วประเทศ
ลักษณะทั่วไปของอาชีพครู
ผู้ประกอบอาชีพนี้มีหน้าที่ในการสอน อบรมทางด้านวิชาการและภาคปฏิบัติ พุทธศึกษา จริยศึกษา
พลศึกษา ที่เน้นนักเรียนเป็นจุดศูนย์กลางในการเรียน รวมถึงการคอยดูแลอบรม ความประพฤติ
เพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนโดยสมบูรณ์ทั้งร่างการและจิตใจ มีสติปัญญาความรู้ คุณธรรม และจริยธรรม
และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ
เมื่อพิจารณาถึงลักษณะงานของครู อาจารย์แล้ว ผู้จะทำหน้าที่ครู-อาจารย์ ควรจะมีคุณสมบัติดังนี้
1. บุคลิกภาพทางด้านร่างกายและจิตใจ
- ด้านร่างกาย ควรเป็นผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ร่างกายสมประกอบ
คือไม่มีความผิดปกติหรือพิการในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
อันที่จะทำลายบุคลิกภาพที่ดีและเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ
- ด้านสติปัญญา ควรเป็นผู้ที่มีสติปัญญาสูงพอสมควร เพราะอาชีพครูต้องการคนที่มีความเฉลียวฉลาด
มีปฏิภาณดี รู้จักสังเกตและจดจำได้ดี ทั้งนี้เพื่อความสามารถในการปรับให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ
และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
- ด้านอารมณ์ ควรมีความเป็นผู้ใหญ่ คือ มีจิตใจที่มั่นคง สามารถควบคุมอารมณ์ได้
รู้จักใช้เหตุผลในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียน
- ด้านสังคม ควรมีความเป็นผู้ใหญ่ในสังคม คือมีความประพฤติดี มีกิริยามารยาทอ่อนน้อม รู้จักกาลเทศะ
สุภาพอ่อนโยน เป็นต้น
2. ความสามารถและความถนัด
ผู้เป็นครู-อาจารย์ ควรมีความถนัดในด้านการสอนและการสื่อสารความหมาย
และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนเข้าใจได้ดีและรวดเร็ว สามารถปกครองนักเรียนในชั้นเรียนได้
มีความเข้าใจในพฤติกรรมต่างๆของเด็ก
3. ความสนใจ
ควรมีความสนใจค้นคว้าหาความรู้และวิทยาการใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ตนเองมีความทันสมัยอยู่เสมอ
นอกจากนี้ควรมีพื้นฐานความรู้ก้าวหน้าในหลายด้าน
แนวทางในการประกอบอาชีพ
ผู้ที่จบการศึกษาทางสาขาวิชาชีพครูนั้น สามารถเลือกประกอบอาชีพได้อย่างกว้างขวาง
โดยส่วนใหญ่สำหรับคนที่จบการศึกษาด้านนี้ มักรับราชการ หรือทำงานเป็นครู อาจารย์
สอนในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ และทำงานในองค์การศึกษา ในฐานะบุคลากรการศึกษา เช่น
ทำงานเกี่ยวกับห้องสมุด งานแนะแนว ศึกษานิเทศก์ นักวิจัย นักวิชาการ งานในการศึกษานอกโรงเรียน
เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร นักสุขศึกษา เป็นต้น
โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
ความก้าวหน้าในอาชีพนี้หากเป็นการรับราชการ ก็คงได้เลื่อนไปตามลำดับขั้นตอนของทางราชการที่กำหนดไว้
ทั้งในเรื่องของอัตราเงินเดือน และตำแหน่งหน้าที่การงาน ซึ่งก็คงจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ ด้าน เช่น จำนวนปีที่รับราชการ คุณวุฒิที่จบการศึกษา หรือการเพิ่มคุณวุฒิการศึกษาต่อเป็นต้น
ที่มา : http://www.career.newnaew.net
|