การคุมกำเนิด คือเทคนิคและวิธีการที่ใช้ในการป้องกันการปฏิสนธิหรือขัดขวางการตั้งครรภ์ เทคนิคและวิธีการเหล่านี้ เช่น contraception (การป้องกันการตั้งครรภ์หรือการปฏิสนธิ),contragestion (การป้องกันไม่ให้ตัวอ่อนฝังที่ผนังมดลูก)และการทำแท้ง(การนำตัวอ่อนออกจากมดลูก)เทคนิกและวิธีการเหล่านี้มีความเหลื่อมล้ำกันพอสมควรการคุมกำเนิดเป็นการวางแผนครอบครัววิธีหนึ่งโดยมีเป้าหมายคือจำกัดจำนวนของการมีบุตร ซึ่งการคุมกำเนิดนั้นสามารถทำได้หลายวิธี และทำได้ทั้งชายและหญิง
 |
ประโยชน์ของการคุมกำเนิด
1.สามารถเลือกมีบุตรได้ตามเวลาที่ต้องการ สำหรับคู่สมรสที่อายุน้อย ฐานะไม่ดีก็จะมีเวลาปรับตัวก่อนที่จะมีบุตร หากตั้งครรภ์ทันทีหลังการแต่งงานจะทำให้ความสุขที่ควรจะได้จากระยะแรกของการสมรสเสียไป ในระยะที่ครอบครัวกำลังยากจนก็จะเป็นภาระต่อครอบครัวในภายหลัง หรือการเตรียมตัวไปทำงานต่างประเทศ การคุมกำเนิดจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
2.เพื่อเว้นระยะการตั้งครรภ์ให้มีระยะเวลาห่างพอสมควร และไม่ให้เป็นภาระต่อครอบครัวที่จะเลี้ยงดูบุตรที่เกิดมาติด ๆ กัน
3.เพื่อจำกัดจำนวนของบุตรให้เหมาะสมกับฐานะของครอบครัว บุตรจะได้รับการเลี้ยงดูและมีการศึกษาที่ดี เป็นผลดีต่อประเทศชาติเนื่องจากประชากรมีคุณภาพ
4.ใช้เนื่องจากเหตุผลทางการแพทย์ ในกรณีที่มารดามีโรคที่เป็นข้อห้ามในการตั้งครรภ์เช่น วัณโรค โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน และโรคเอดส์ เป็นต้น ซึ่งหากมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น อาจทำให้อาการรุนแรงถึงแก่ชีวิตทั้งมารดาและทารกได้
ยาเม็ดคุมกำเนิด
ยาเม็ดคุมกำเนิด (Oral contraceptive pill หรือ Birth control pill หรือ Pill) เป็นยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน/Estrogenและโปรเจสติน/Progestin) มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ โดยยับยั้งการตกไข่ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูก (เยื่อบุมดลูก) บางตัว มีสภาพไม่พร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน และทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้น เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อน ที่ของตัวอสุจิ จึงทำให้ไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ในท่อนำไข่ได้
ยาเม็ดคุมกำเนิดแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่
1. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined pill) ประกอบด้วยตัวยาทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน
2. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีโปรเจสตินอย่างเดียว (Minipill)
3. ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Postcoital pill)
 |
การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
แผงยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมมี 2 แบบ คือ ชนิด 21 เม็ด ประกอบ ด้วยฮอร์โมนทั้ง 21 เม็ด และชนิด 28 เม็ด โดยชนิด 28 เม็ด จะประกอบด้วยเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด และเม็ดแป้งหรือวิตามินอีก 7 เม็ด การเริ่มรับประทานยาครั้งแรกควรเริ่มในวันที่ 1-5 ของการมีประจำเดือน มีผลในการคุมกำเนิดได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย และยังลดการเกิดเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือน การเริ่มรับประทานยาหลัง 5 วันแรกของประจำเดือนสามารถทำได้ แต่ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัย อย่างน้อย 7 วันหลังกินยาเม็ดแรก โดยรับประทานยาคุมกำเนิดวันละ 1 เม็ดในเวลาเดิมทุกๆวัน แนะนำให้รับประทานก่อนนอน เพื่อป้องกันการลืม จากนั้นรับประทานเม็ดยาไล่ตามลูกศรจนหมดแผง ในกรณีที่เป็นแผงชนิด 28 เม็ด เมื่อหมดแผงสามารถเริ่มแผงใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหมด ส่วนกรณีแผงชนิด 21 เม็ดให้เว้นระยะ 7 วัน จึงเริ่มแผงใหม่ ถ้าลืมรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม 1 เม็ด ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ และรับประทานยาเม็ดต่อไปตามปกติถ้าลืมรับประทานยา 2 เม็ด ให้รับประทาน 1 เม็ดทันทีที่นึกได้และรับประทานก่อนนอนตามปกติ วันต่อมาให้รับประทานยา 1 เม็ดหลังอาหารเช้า จาก นั้นรับประทานตามปกติถ้าลืมรับประทานยา 3 เม็ด ให้ทิ้งยาแผงเดิม แล้วเริ่มรับประทานแผงใหม่ทันที ร่วมกับใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วยอีก 7 วัน (ในกรณีที่รับ ประทานยาคุมชนิดที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนขนาด 20 ไมโครกรัม หรือน้อยกว่า ถ้าลืมในสัปดาห์แรกให้ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินร่วมด้วย)
กรณีที่ลืมรับประทานยาเม็ดที่เป็นเม็ดแป้งหรือวิตามินในแผงยาคุม 28 เม็ดให้ข้ามยาเม็ดนั้น แล้วเริ่มรับประทานยาเม็ดต่อไปตามปกติ ที่มา :http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=9&chap=3&page=t9-3-infodetail01.html
|