การใส่ถุงยางอนามัย ต้องใส่เฉพาะตอนที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่เท่านั้น โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.ฉีกถุงยางออกจากซองอย่างระมัดระวัง จะหยิบจะจับ ต้องระวังไม่ให้ถุงยางสัมผัสกับเล็บ ของมีคม หรือเครื่องประดับที่จะทำให้เกิดรอยขีด ข่วนได้ เมื่อฉีกซองออกมาแล้ว ควรเตรียมตัวเพื่อสวมถุงยางทันที
2.ถุงยางอนามัยถูกบรรจุในลักษณะม้วนเป็นวงกลม ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้ของมือข้างหนึ่งจับที่ปลายกระเปาะ (ติ่งปลายถุง) โดยให้รอยม้วนอยู่ด้านนอก จากนั้นบีบไล่ลมออก แล้วนำมาวางสวมบนส่วนหัวอวัยวะเพศ
**ถ้าไม่บีบไล่ลม ระหว่างทำกิจกรรม อาจทำให้ถุงยางแตกได้**
3.ใช้มืออีกข้าง รูดถุงยางลงมาจนถึงโคนอวัยวะเพศ โดยที่มืออีกข้างยังคงบีบที่ปลายกระเปาะ
4.สำรวจบริเวณกะเปาะต้องแบน ไม่มีลมเหลืออยู่ หากบริเวณกะเปาะพอง แสดงว่าใส่ผิด ต้องถอดทิ้งเปลี่ยนอันชิ้นใหม่ ห้ามถอดแล้วนำกลับมาใส่ซ้ำเด็ดขาด
5.หากต้องการใช้สารหล่อลื่นเพิ่มเติม ต้องใช้สารหล่อลื่นเฉพาะที่มีส่วนผสมเป็นน้ำ หรือซิลิโคนเท่านั้น เช่น ห้ามใช้น้ำมัน โลชั่น วาสลีน หรือแม้แต่เบบี้ออลย์ ก็สามารถลดประสิทธิภาพของถุงยาก จนถึงขั้นทำให้ถุงยางแตกได้
6.เมื่อถึงเส้นชัยเรียบร้อย ให้ถอนอวัยวะเพศออกทันทีในขณะที่แข็งตัวอยู่ มิฉะนั้นถุงยางอาจคาอยู่ที่ช่องคลอดได้ โดยในขณะที่ถอนออก ต้องใช้มือช่วยจับขอบถุงยางที่อยู่ส่วนโคนอวัยวะเพศไว้ด้วย
7.ใช้กระดาษทิชชู่พันรอบโคนอวัยวะ แล้วรูดถุงยากออก หลีกเลี่ยงการสัมผัสด้านนอกของถุงยางที่ม
สารคัดหลั่งของฝ่ายหญิงอยู่ เพราะอาจติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ (กรณีมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา)
ความคิดเห็น
ถุงยางวอนามัยมีทั้งแบบของผู้หญิงและผู้ชาย แต่ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงนั้น ไม่เป็นที่นิยม เพราะมีราคาแพง หาซื้อยาก ส่วนที่เรารู้จักกันดีและมีผ็ใช้มากจะเป็นถุงยางสำหรับผู้ชาย ถุงยางอนามัยอุปกรณ์คุมกำเนิดที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย มีวิธีใช้ที่ไม่ได้ยุ่งยาก มีให้เลือกใช้หลากหลายแบบด้วยกัน มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงมาก นอกจากนั้นยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ได้ เนื่องจากสามารถคุมกำเนิดได้ดีและยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ได้ จึงเหมาะแก่การที่จะใช้ในการคุมกำเนิดเป็นอย่างยิ่ง ที่มา:http://www.condomthai.com/sto_04_condom.php
|