Ran khaa ya
   
 
 

ดาวตก

                   ดาวตก หรือ ผีพุ่งไต้ คือ สะเก็ดดาวจากอวกาศที่พุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก (หรือวัตถุอื่น เช่น ดาวเคราะห์หรือดาวบริวาร) สาเหตุที่สะเก็ดดาวสว่างเรืองขึ้น มีสาเหตุหลักจากการแตกตัวเป็นไอออน ของโมเลกุลในบรรยากาศบริเวณรอบสะเก็ดดาว ดาวตกที่สว่างมาก ๆ คือ สว่างกว่าดาวศุกร์ อาจเรียกว่าลูกไฟ หากสะเก็ดดาวมีขนาดใหญ่จนเผาไหม้ในบรรยากาศไม่หมด วัตถุที่ตกถึงพื้นดินเรียกว่าอุกกาบาต และทำให้เกิดหลุมอุกกาบาต ดาวตก หรือผีพุ่งใต้ (Meteor) เป็นเพียงอุกกาบาต (Meteoroids) เศษวัตถุเล็ก ๆ หรือฝุ่นที่เกิดตามทางโคจรดาวหาง   เมื่อเศษวัตถุเหล่านี้ตกผ่านชั้นบรรยากาศโลก ก็จะถูกเสียดสีและเผาไหม้เกิดเป็นแสงให้เห็นในยามค่ำคืน ในบางครั้งวัตถุขนาดใหญ่สามารถลุกไหม้ผ่านชั้นบรรยากาศ และตกถึงพื้นโลกได้ เราเรียกว่า "ก้อนอุกกาบาต" (Meteorite)
      การที่ดาวหางโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ได้ทิ้งเศษฝุ่นและวัตถุขนาดเล็กตามแนวเส้นทางโคจร   ในแต่ละปีโลกจะโคจรผ่านบริเวณดังกล่าว    เมื่อเศษฝุ่นเหล่านี้ผ่านเข้ามาสู่ชั้นบรรยากาศชั้นบนของโลกจะถูกเสียดสีกับชั้นบรรยากาศทำให้เกิดความร้อนและเผาไหม้เศษวัตถุนั้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีปรากฏให้เห็นเป็นเส้นสว่างสวยงามเป็นจำนวนมากเราจึงเรียกว่า ฝนดาวตก (Meteor shower)

     สะเก็ดดาวส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนที่หลุดออกมาจาก ดาวหาง (Comet) หรือดาวเคราะห์น้อย ที่เหลือเป็นเศษชิ้นส่วนของดวงจันทร์หรือดาวเคราะห์ที่กระจายออกไปในอวกาศจากการถูกอุกกาบาตพุ่งเข้าชน เมื่อสะเก็ดเหล่านี้ลอยเข้าใกล้โลกจะถูกแรงโน้มถ่วงของโลกดึงดูดให้พุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ความเร็วเฉลี่ยขณะพุ่งอยู่ในชั้นบรรยากาศนั้นเท่ากับ 20 กิโลเมตร/วินาที แต่อาจมีความเร็วได้สูงถึง 71 กิโลเมตร/วินาที ขึ้นอยู่กับทิศทางการตกของสะเก็ดดาว ถ้าพุ่งตกในแนวดิ่งจะมีความเร็วมากกว่าพุ่งเฉียงๆ เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ
ความเร็วขนาดนี้ทำให้สะเก็ดดาวเสียดสีกับชั้นบรรยากาศจนเกิดไฟลุกไหม้ มองเห็นเป็นเส้นยาวพุ่งลงมาจากฟากฟ้าในยามค่ำคืน (เวลากลางวันก็มีดาวตก แต่มองไม่เห็นเพราะถูกกลบด้วยแสงสว่างจากดวงอาทิตย์) เรียกกันว่า "ดาวตก" (Meteor) หรือที่คนสมัยโบราณเรียกว่า ผีพุ่งไต้

      สีของดาวตกจะแตกต่างกันออกไปตามองค์ประกอบทางเคมีของสะเก็ดดาวนั้น เช่น สะเก็ดดาวมีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบหลักจะทำให้เกิดดาวตกสีเหลือง ทองแดงจะทำให้เกิดดาวตกสีน้ำเงินหรือเขียว ซิลิเกตทำให้เกิดดาวตกสีแดง โพแทสเซียมทำให้เกิดดาวตกสีม่วง โซเดียมทำให้เกิดดาวตกสีส้ม เป็นต้น

     คนโบราณเชื่อว่าปรากฏการณ์ดาวตกเป็นเรื่องของเทวดาบนฟ้าที่ลงมาบนโลกมนุษย์ใครก็ตามที่เห็นดาวตกจะเป็น คนที่โชคดีอธิษฐานอะไรก็จะได้ดังใจหวัง ใครก็ตามที่พอเห็นดาวตกแล้วจะต้องรีบยกมือขึ้นอธิษฐานด้วยคิดว่าเทวดาจะช่วยให้เราสมหวังในสิ่งที่อยากได้ นี่คือความเชื่อหนึ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้กับตนเอง

 
 
   
 
   
เว็บไซต์นี้ แสดงผลได้ดี บนความละเอียด 1024x768 Text Size Medium
วิชา การพัฒนาเว็บไซต์เพื่อจัดทำโครงงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครสวรรค์

   
SITEMAP นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายการคืนสินค้า
กฎของร้าน