2. ข้อใดบอกประโยชน์ของนิทานก่อนนอนได้ชัดเจนที่สุด ก. มีส่วนช่วยในการเสริมจินตนาการของเด็กๆ ข. ให้ความบันเทิง ความเพลิดเพลิน ค. ให้ข้อคิดคติสอนใจ ง. การออกแบบแลให้ความบันเทิง สอดแทรกคติสอนใจ ช่วยเสริมจินตนาการะพัฒนาเว็บไซต์
3. ข้อใดต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของนิทานที่ดี ก. นิทานที่มีเนื้อหารุนแรง ข. นิทานที่มีเนื้อหาเน้นไปทางการดำรงชีวิต สอดแทรกเนื้อหาในส่วนที่เป็นจินตนาการ มีกาสอดแทรกข้อคิดคติเตือนใจ ค. นิทานที่เป็นเนื้อหาสวยงาม กล่าวแต่เรื่องดีๆ มุมมองดีๆ ของโลก ง. นิทานที่มีเนื้อหาล้อเลียนการเมือง
4. นิทานข้อใดต่อไปนี้เหมาะสำหรับใช้เป็นนิทานก่อนนอน ก. นิทานเรื่องลิงกับปลา ข. นิทานเรื่องเพื่อนเฮี้ยนประตูหลอนผจญภัยท้าความกลัวกับผีวันลอยกระทง ค. นิทานเรื่องปิศาจในราตรี ง. นิทานเรื่องสงครามวังมังกรคู่
5. นิทานก่อนนอนควรเป็นนิทานประเภทใด ก. นิทานที่ให้ความเพลินเพลิน ใช้ภาษาที่ทำให้เกิดจินตนาการสอดแทรกคติเตือนใจ ข. นิทานที่มีเนื้อหารุนแรง สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ค. นิทานที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องซ่อนเร้นสยองขวัญ เขย่าความกลัว ง. นิทานที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการต่อสู้เรื่องโหดร้ายของชีวิต
6. บุคคลใดต่อไปนี้นำประโยชน์ของการฟังนิทานก่อนนอนไปประยุคใช้ในชีวิตประจำวันได้ถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุด ก. น้องปลาดุกฟูฟังนิทานเรื่องลูกหมูสามตัวแล้วตั้งมั่นกับตัวเองว่าจะสร้างบ้านด้วยหินเพียงอย่างเดียว ข. ปลาสร้อยบอกอ้อนแม่ให้ซื้อเสื้อสีแดงให้ใส่เหมือนในนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดง ค. น้องปลากระดี่รำวงสัญญากับคุณแม่ว่าจะเป็นเด็กดีและตั้งใจเรียนเหมือนในนิทานเรื่อง เด็กดีในวันฝนตก ง. น้องปลาซิวชอบเรื่องโกหกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่เล็กน้อย ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
7. นิทานพื้นบ้านมีลักษณะอย่างไร ก. เป็นเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมา ข. เป็นเรื่องทางประวัติศาสตร์ ค. เป็นต้นกำเนิดของประวัติศาสตร์ ง. เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ
8. นิทานที่เล่าจากปากต่อปากเรียกว่าอย่างไร ก. นิทานท้องถิ่น ข. นิทานมุขปาฐะ ค. นิทานลายลักษณ์ ง. นิทานราชสำนัก
9. เรื่องราวเกี่ยวกับชาติต่างๆของพระพุทธเจ้าเรียกว่าอย่างไร ก. นิทานพื้นบ้าน ข. นิทานปรัมปรา ค. นิทานชาดก ง. นิทานทศชาติ
10. นิทานแตกต่างจากนิยายในเรื่องใด ก. ระบุชื่อผู้แต่งไว้ ข. ไม่มีชื่อผู้แต่ง ค. เป็นเรื่องจักรๆวงศ์ๆ ง. มีหลักฐานอ้างอิง