Ran khaa ya
   
 
เทคนิคเลิกขี้เกียจ
 

ข้อคิด

          มีคนเคยกล่าวว่า
        “มนุษย์มิได้มีความเฉลียวฉลาดและเก่งกาจสามารถ  เพราะพรสวรรค์ที่ฟ้าประทานให้  อีกทั้งมนุษย์ก็ไม่ได้ไม่เอาไหน  และโง่เง่าเต่าตุ่นไม่ได้เรื่องเพราะฟ้าประทานให้เช่นกัน  แต่สิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  นั่นคือความขยันหมั่นเพียร และความเกียจคร้าน”
          ระหว่างความแตกต่างนี่เองทำให้ผลผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์แตกต่างกัน  เพราะความฉลาดและวาสนา จะทำให้มนุษย์คนหนึ่งมีโอกาสมากกว่าอีกคนหนึ่งก็จริงอยู่  แต่การที่จะได้รับความสำเร็จในชีวิต  ย่อมน้อยกว่าผู้ที่ด้อยโอกาส  หากคนๆนั้นไม่ลงมือทำ  และไม่ขยันหมั่นเพียร  มัวแต่เกียจคร้าน  เอาแต่สบาย
          ดังนั้น  จงขยันที่จะ คิด ขยันที่จะ เรียนรู้ ขยันที่จะ ทำ ลงมือทำในสิ่งที่คิด  จะสามารถนำชีวิตไปสู่เป้าหมายได้  อย่าปล่อยวาสนามาเป็นตัวกำหนดชีวิต  แต่ต้องนำความขยันมากำหนดชีวิตของเราเอง
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “เก่งไม่กลัว กลัวช้า” นั้น
ขอให้จดจำคำคมใหม่ว่า “เก่งไม่กลัว กลัวเกียจคร้าน” เมื่อทั้งเก่งและไม่เกียจคร้าน ความสำเร็จจึงอยู่เพียงปลายมือคว้าเท่านั้น
         ข้อคิดเตือนตนจากหนังสือ ขอให้ชีวิตดี ขอให้มีกำลังใจ โดยเบญญาวัธน์  หนังสือที่ซื้อเพื่อให้เป็นของขวัญให้กับวันดีๆของตัวเองเมื่อปีที่แล้ว  วันนี้ได้มีโอกาสหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้งแล้วรู้สึกสะกิดใจกับข้อคิดนี้
ความขยัน  ดูช่างหายห่างไกลไปจากชีวิตของตัวเองซะเหลือเกินในช่วงนี้  ฉันรู้สึกละอายแก่ใจทุกครั้งที่มีหลายๆคนรอบๆข้างชอบบอกว่าฉันเป็นคนขยัน  แต่ขยันที่เขาเหล่านั้นเห็นเป็นเพียงการกระทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงไปเท่านั้น (สำหรับฉัน  ถ้าจะบอกว่า ขอทำเพียงเพื่อให้เสร็จๆไปก็ไม่น่าจะผิดนัก) ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างมากมายที่ฉันหมักหมมไว้ด้วยงานในหน้าที่ของฉันที่พวกเขายังไม่รู้(แต่ฉันรู้อยู่แก่ใจ...น่าตีจริงๆฉันนี่)
จงขยันที่จะ คิด ขยันที่จะ เรียนรู้ ขยันที่จะ ทำ ลงมือทำในสิ่งที่คิด  ข้อความนี้สะกิดใจฉันได้ดีจริงๆ ฉันมานั่งนึกทบทวนอยู่นานว่าทำไมเดี๋ยวนี้ฉันถึงได้มีตัวขี้เกียจเกาะอยู่หนาแน่นขนาดนี้  (ขี้เกียจตัวเป็นขน จนสันหลังยาวแล้วด้วย) ฉันคนเก่าที่เคยคิดอยากทำนั่น  ทำนี่อยู่ตลอดเวลาหายไปไหน(หายไปนานแล้วด้วย) เรื่อยๆมาเรียงจริงๆชีวิตฉัน

ไม่ได้การแล้วล่ะ  ถ้าปล่อยไปแบบนี้ฉันต้องแย่แน่ๆ  ถึงเวลาแล้วที่ต้องลุกขึ้นมาสลัดความขี้เกียจออกจากตัวเองอย่างจริงๆจังๆซะที  ค่อยๆแคะ  ค่อยๆแกะเจ้าตัวขี้เกียจออกไป  บางทีเจ้าตัวขยันของฉันอาจจะหน้าตาดีก็ได้

          “ไม่มีความจนในหมู่คนขยัน” จริงหรือไม่ ?เหตุใดคนขยันบางคนยังไม่รวยคุณเคยได้ยินคำนี้ไหมคับว่า “ไม่มีความจนในหมู่คนขยัน” พูดง่ายๆคือหากคุณขยันคุณไม่มีทางจนคุณเชื่อไหมครับว่า คนรวยทุกคนเป็นคนขยัน ? หลายคนคงตอบว่าเชื่อแล้วคุณเชื่อไหมครับว่า คนขยันทุกคนเป็นคนรวย ? หลายคนงงๆคุณเคยเห็นคนขยันแล้วยังไม่รวยไหมครับ?
รู้จักบ้างไหมครับ? คนพวกนั้นอยู่แถวไหน?บางคนบอกอยู่ตรงนี้แหละ นั่งอ่าน Face นี้อยู่ 55ใช่ครับ ผมต้องการจะสื่อว่า ยุคนี้สมัยนี้ ความขยันอย่างเดียว ความมุ่งมั่นอย่างดียว ไม่ทำให้คุณรวยได้อย่างแน่นอน บางคนสงสัย โห!! มันยากขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ ขยัน มุ่งมั่น สู้เต็มที่ ยังไม่รวย แล้วทำอย่างไรจะไปรวย ในเมื่อยากนัก อยู่แบบนี้ก็ได้ อ้าวไม่ทันไร บางคนถอดใจซะแล้วจริงๆมันไม่ได้ยากขนาดนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกครับ คนรวยขยันแต่เขามีวิธีขยัน เขารู้ว่าควรขยันกับ  "งานอะไร ควรใช้เครื่องมือไหน"แล้วคนรวยคิดและทำอย่างไรละ?ผมมีเรื่องนึงที่เคยเห็นในชีวิตและเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา อยากเล่าให้คุณฟังก่อนคุณเคยเห็นแมลงเม่าหรือแมลงหวี่ พยายามบินลอดมุ่งลวดออกไปหาแสงไฟที่อยู่อีกด้านของหน้าต่างไหม?ถ้าคุณไปดูใกล้ๆมุ่งลวดคุณอาจเห็น “ซากศพ” หรือ “ปีกที่ขาด” ของแมลงเหล่านั้น มันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น มันเกิดจากความพยายาม ความมุ่งมั่นถึงที่สุดของแมลงเหล่านั้น ที่ต้องการบินลอดมุ่งลวดไปสู่แสงไฟ ไปสู่เป้าหมาย ไปสู่อิสรภาพในความคิดของพวกมันผมอยากยกย่อง เรียก ซากศพ เหล่านั้นว่า“อนุเสาวรีย์แห่งความมุ่งมั่น”ลองคิดดูซิครับ ช่วงเวลาที่มันต้องออกแรงต้องมุ่งมั่นในการบินเอาตัวเองผ่านเส้นทางที่เป็นช่องแคบๆให้ตัวเองผ่านออกไปได้ หลายตัวเสียชีวิต หลายตัวตัวหลุดออกไปได้แต่ปีกของพวกมันได้ขาดออกหมดแล้วเราก็ไม่อาจทราบได้ถึง ความเหนื่อยในการพยายามรวมถึงความเจ็บปวดที่ปีกขาดหรือบางตัวถึงขั้นเสียชีวิตแต่เราทราบได้อย่างหนึ่งคือ ความมุ่งมั่นและพยายามจนตัวตายของมัน เรื่องนี้น่ายกย่อง นึกภาพในขณะนั้นแล้วก็รู้สึกหดหู่ในความเจ็บปวดและรู้สึกขนลุกกับความพยายามไปถึงจุดหมายจนตัวตายแต่พอผมมองไปข้างๆหน้าต่างมุงลวดอันนั้น ห่างออกไปอีกไม่ถึง 1 เมตร มันมีประตูบานใหญ่เปิดอยู่ แต่ผมเห็นมีแมลงบางตัวเท่านั้นเองที่เปลี่ยนเส้นทางจากการบินผ่านมุ่งลวด บินมาสู่เส้นทางใหม่ ผ่านประตูที่เปิดไปสู่เป้าหมายและอิสรภาพของมันที่ แสงไฟ กลับพบว่ามีแมลงกลุ่มนึงบินวนเวียนรอบๆคล้ายๆ กำลังเต้นรำ ฉลองความสำเร็จของตัวเองอยู่คุณนึกถึงอะไรหรือมองเห็นอะไรครับจากเรื่องแมลงเม่าเหล่านี้?อาจมีใครนึกสงสัยว่าทำไมมันทำแบบนั้น สงสัยว่าทำไมมันถึง “โง่” จังที่บินชนจนตัวตาย แต่จริงๆแล้วผมว่ามันไม่ได้โง่หรอกครับ มันแค่ทำตาม “สัญชาติญาณ” ของมัน "มันอาจไม่ทันคิด" หรือ "มันอาจคิดไม่ทัน"ซึ่งเราเป็นคนเราคิดทันในเหตุการณ์นั้น เราจึงไม่โง่ แต่เราก็ต้องให้เกียรติ สัตว์เหล่านั้น ไม่ควรไปว่าพวกมัน น่าเสียดายที่เราไม่สามารถบอกพวกมันได้ให้เปลี่ยน “สัญชาติญาณ” ใหม่ซะ!!แต่สิ่งที่น่าคิดคือวันนี้คนหลายคนก็อาจไม่ต่างจาก “แมลง” เหล่านั้น หลายคนกำลังทำตาม “สัญชาติญาณ” ของตัวเอง โดยที่คุณอาจ "ไม่ทันคิด" หรือ "อาจคิดไม่ทัน" เช่นกัน คนหลายคนกำลัง “ทำอะไรตามๆกัน” หรือ คนหลายคนกำลัง “ดันทุรังในสิ่งที่ไม่ทำให้ถึงเป้าหมาย”จนบางครั้งไม่มองเส้นทางอื่น หลับหูหลับตา เอาเป็นเอาตาย โดยที่ไม่รู้ว่าบางครั้งทางที่ตัวเองกำลังพยายามอาจไม่ใช่ “ทางเดียว” หรือ “ทางที่ดีที่สุด” มันยังมีหนทางอื่นๆอีกมากวันนี้คุณอาจต้องหยุดคิดซักครู่นึง ทบทวน ประเมิน วิเคราะห์ผลลัพธ์จาก “เส้นทางเดิม” จาก “เครื่องมือเดิม” ว่าเรากำลังไม่กล้าออกนอกเส้นทางเดิมเพราะเราสบายใจที่ได้ทำตามคนส่วนมากหรือเปล่าและพิจารณาเครื่องมือที่เราใช้วันนี้ว่า มันเป็นเครื่องมือที่เรากำลังออก “แรงมาก” แต่ได้ “ผลลัพธ์น้อย” หรือเปล่า??อย่าทำงานหนักจนเป็นเพียง "อนุสาวรีย์แห่งความมุ่งมั่น" นะครับอย่ามัวแต่ลอดผ่านมุงลวด เพียงอย่างเดียวจนหมดแรงนะครับมองซ้ายมองขวาบาง ข้างๆอาจมีประตูเปิดอยู่นะครับ!!!

 

ที่มา : บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ครูตุ๊กแก…ตัวดำๆ…
อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/273905
หนังสือ ขอให้ชีวิตดี ขอให้มีกำลังใจ โดย เบญญาวัธน

 
 
   
 
   
เว็บไซต์นี้ แสดงผลได้ดี บนความละเอียด 1024x768 Text Size Medium
วิชา การพัฒนาเว็บไซต์เพื่อจัดทำโครงงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครสวรรค์
   
SITEMAP นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายการคืนสินค้า
กฎของร้าน