Ran khaa ya
   
 
ประวัติความเป็นมาขนมไทย
ขนมลูกชุบ
ขนมบัวลอย
ขนมทองหยอด
ขนมฝอยทอง
ขนมข้าวต้มมัด
แบบทดสอบหลังเรียน
เว็บไซต์ครูผู้สอน
คณะผู้จัดทำ
 


   

                    

    ขนมบัวลอยเป็นขนมไทยพื้นบ้านของชาวไทย ที่รู้จักกันทั่วทุกภูมิภาค แต่ละพื้นที่จะมีสูตรและเคล็ดลับที่แตกต่างกันไปโดยเฉพาะขนมบัวลอยสูตรของนางกวยอัตจักร์ซึ่งเป็นชาวอีสานและมีภูมิลำเนาเป็นคนลา อำเภอโนนศิลาโดยกำเนิด ได้รู้จักวิธีการทำขนมบัวลอยมาเมื่อครั้งยังเป็นสาว โดยได้เรียนรู้จากแม่ และเริ่มปรับปรุงพัฒนารูปแบส่วนผสมตลอดจนการรู้จักดัดแปลงหรือนำเอาวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาเป็นส่วนผสมเช่นใบเตยดอกกุหลาบหรือดอกอัญชันมาคั้น เอาน้ำไปผสมกับแป้งเอาน้ำไปผสมกับแป้งเเพื่อให้ได้สีสันที่สวยงาม น่ารับประทานจากที่เคยทำขนมบัวลอยเพื่อไว้รับประทานกันเองภายในครอบครัว หรือแบ่งไปทำบุญที่วัดในอดีต ก็ได้พัฒนาฝีมือขึ้นมาเพื่อขายให้ผู้คนในหมู่บ้านหรือหมู่บ้านใกล้เคียงและนำไปขายควบคู่กับ
อาหารพื้นบ้านที่ตัวเองทำขายอยู่เป็นประจำ ทำให้มีรายได้จากการค้าขายเพิ่มขึ้นซึ่งนางกวย ได้มองเห็นโอกาสที่ว่าในปัจจุบันไม่ค่อยมีคนทำขนมบัวลอยรับประทานกันเนื่องจากเห็นว่ามีขั้นตอนที่ยุ่งยาก
เสียเวลา และสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด จึงทำขนมบัวลอยไว้จำหน่ายให้บุคคลภายในหมู่บ้าน
ตลอดจนผู้คนที่มาติดต่อราชการ ณ ที่ว่าการอำเภอโนนศิลา ซึ่งนางกวยตั้งใจที่จะทำขนมบัวลอยขายคู่กับอาหารพื้นบ้าน
ให้คนพื้นบ้านอีสานและโดยเฉพาะชาวอำเภอโนนศิลาได้รับประทานตลอดไป เพื่อเป็นการรักษาสืบทอดการทำขนมบัวลอยคงไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้
อนุรักษ์สืบสานต่อไป ทั้งนี้นางกวย กล่าวว่ายินดีที่จะให้คำแนะนำ วิธีการทำในทุกขั้นตอนแก่ผู้สนใจโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

   เครื่องปรุง/ส่วนผสม

    1.แป้งข้าวเหนียว1ก.ก.

    2.ใบเตย/ดอกกุหลาบ/ดอกอัญชัน

    3.น้ำตาล 1/2 ก.ก.

    4.น้ำกะทิ

    5.เกลือป่น

     ขั้นตอน/วิธีทำ

    1.คั้นเอาสีธรรมชาติจากใบเตยหรือดอกกุหลาบหรือดอกอัญชัน ตามวัสดุที่มีหรือสีที่ต้องการ เพื่อให้ได้น้ำสำหรับผสมแป้ง

    2.นวดแป้งผสมน้ำเย็นหรือน้ำที่ได้จากการคั้นเอาสีธรรมจนได้ที่ ประมาณ5-10นาที พอที่จะให้แป้งจับกัน

    3.นำแป้งที่จับกันไปหล่อเป็นก้อนเล็ก ๆ ขนาดเท่าหัวนิ้วชี้ หรือหัวแม่โป้ง

    4.นำแป้งที่หล่อแล้วไปลวกในน้ำเดือด ๆ ประมาณ30นาที หรือจนแป้งสุก

    5. นำแป้งที่สุกไปล้างในน้ำสะอาด และล้างให้สะอาด

    6.แล้วนำไปต้มในหม้อน้ำเชื่อม (น้ำตาล + น้ำกะทิ) ให้สุกอีกรอบ

    7.นำไข่ใส่5–6ฟอง กะเทาะเทใส่ แล้วยกหม้อลง

    8.ตักใส่ถ้วยนำไปรับประทานขณะที่ร้อน ๆ หรือเย็นแล้วก็ได้

  เทคนิคในการทำให้อร่อย

   นำแป้งที่หล่อแล้วไปลวกในน้ำเดือด ๆ จนแป้งสุก แล้วล้างในน้ำให้สะอาด ป้องกันความเฝื่อน หรือกันแป้งติดกัน


 
   
 
   
เว็บไซต์นี้ แสดงผลได้ดี บนความละเอียด 1024x768 Text Size Medium
วิชา การพัฒนาเว็บไซต์เพื่อจัดทำโครงงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครสวรรค์
   
SITEMAP นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายการคืนสินค้า
กฎของร้าน