บ้านและชุมชนของฉัน
บ้านของฉันอยู่ที่ ต. บ้านมะเกลือ อ. เมือง จ. นครสวรรค์ มีสมาชิกในบ้าน 4 คนพ่อกับแม่อยู่กรุงเทพทำงานอยู่ที่นั่น ฉันอยู่กับป้า
|
งานบ้านที่ทำคือ กวาดบ้าน ล้างจาน หุงข้าว อาชีพที่บ้านคือ ค้าขาย บ้านมีลักษณะเป็นบ้าน2ชั้นติดถนน มีวัดอยู่แถวบ้านคือ วัดท่าพระเจริญพรต เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เดิมเรียกว่า วัดบ้านมะเกลือ ตรงตามชื่อของหมู่บ้าน (บริเวณโดยรอบบ้านแต่เดิมเป็นดงต้นมะเกลือ) เริ่มสร้างวัดเมื่อ พ.ศ. ๑๙๔๓ ในรัชสมัยของ พระรามราชาธิราช (พ.ศ. ๑๙๓๘ - ๑๙๕๒) ซึ่งตรงกับสมัยสุโขทัยตอนปลาย ติดต่อกับสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๑๙๕๓ มีประวัติเล่ากันมาว่า ชาวตำบลบ้านมะเกลือเคยได้จัดสถานที่ประทับถวายและ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ครั้งทรงเสด็จมณฑลนครสวรรค์หัวเมืองฝ่ายเหนือ ได้ทรงประราชทานนามวัดเขาดินใต้ไว้ว่า วัดพระหน่อธรณินทร์ใกล้วารินทร์คงคาราม และทรงพระราชทานตำแหน่งหม่อมหลวงให้แก่หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นบุตรตรีของขุนบรรจงหมู่บ้านตรงนั้นจึงเรียกกันว่า หมู่บ้านหม่อม ซึ่งตั้งอยู่ ณ หมู่ ๓ ตำบลบ้านมะเกลือ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ต่อ มาปี พุทธศักราช ๒๔๔๔ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้เสด็จประภาสต้นมายังมณฑลนครสวรรค์ ประชาชนชาวบ้านมะเกลือได้จัดตั้งพลับพลารับเสด็จ (และภายหลังพระองค์ได้ทรงพระราชทานนามกำนันตำบลบ้านมะเกลือคนแรก เป็นขุนแสงมะเกลือคราม) ต่อ จากนั้นได้เสด็จไปอำเภอเก้าเลี้ยว และเลยไปจังหวัดกำแพงเพชร เมื่อเสด็จกลับได้ทรงแวะที่วัดเขาดิน ทรงศรัทธาเลื่อมใสหลวงพ่อเฮง เจ้าอาวาส ต่อมาทรงพระราชทานสมณศักดิ์ให้เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูพิสิสสมถคุณ จากนั้นได้เสด็จไปบ้านบางพระหลวง ทรงพระราชทานทรัพย์ ๘๐ บาท ถวายเจ้าอาวาสวัดบางพระหลวง เพื่อบำรุงวัด
วัดท่าพระเจริญพรตถูกทิ้งร้างจนบริเวณโดยรอบกลายเป็นป่ารกชัฏจนถึงพ.ศ. ๒๔๖๕ พระอธิการเทียน ธมฺมสุว ณฺโณ อดีตเจ้าอาวาส ได้ปรับปรุงอาคารต่างๆ ได้แก่ อุโบสถและก่อสร้างมณฑปจำนวน ๓ หลัง
|
จนสามารถตั้งเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎระเบียบของกรมการศาสนาได้อีกครั้งหนึ่ง และมีเจ้าอาวาสดำรงตำแหน่งสืบกันมาจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน วัดท่าพระเจริญพรต เป็นวัดประจำตำบลบ้านมะเกลือ และเป็นศูนย์กลางการศึกษาของพระภิกษุ สามเณร ในจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดใกล้เคียง โดยเปิดเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม-บาลี แผนกสามัญ ซึ่งเริ่มดำเนินการเรียนการสอนมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๓ และได้รับยกย่องเป็นสำนักเรียนพระปริยัติธรรมดีเด่น จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการมี พระภิกษุและสามเณรสอบได้เป็นจำนวนมาก และมีสอบได้ถึงเปรียญธรรม ๙ ประโยค ในนามสำนักศาสนศึกษาวัดท่าพระเจริญพรต มีศูนย์การศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน เปิดโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา ที่จัดขึ้นโดยวัด ทั้ง ยังเป็นสถานที่ศึกษาอบรมวิปัสสนากรรมฐาน เป็นสำนักปฏิบัติธรรมแห่งที่ ๔ ประจำจังหวัดอีกด้วย ปัจจุบันวัดท่าพระเจริญพรต มีพระสงฆ์จำพรรษาปีละประมาณ ๕๕ รูป และสามเณร ๕๐ รูป ประมาณปีละ ๙๐ ๑๐๐ รูป
|