ชาวบ้านไทยทรงดำ นั้นในแต่ละบ้านจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านตนเองอยู่ ซึ่งที่เค้าเรียกกันว่า กะล้อห่อง ซึ่งกะล้อห่องนั้นก็คือ ที่เก็บกระดูกของบรรพบุรุษซึ่งเป็นลักษณะเป็นเหมือนขันธ์ที่ใช้ในงานต่างๆ มีเป็นช่องๆ ใส่หมากพลู ใส่ข้าวปลาอาหาร และจะมีกระบุงหรือกระติ๊บข้าวเหนียวแขวนอยู่ข้างๆด้วยซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านนี้ก็จะมีพิธีกราบไหว้บูชาในงานประเพณี ต่างๆ เช่น ประเพณีปาดตง ประเพณีเสนเรือนซึ่งเป็นประเพณีที่ใช้กันมายาวนานและเป็นประเพณีที่ศักดิ์สิทธิ์มากๆเพราะว่าเป็นการบูชาบรรพบุรุษที่คอยปกปักรักาาบุคคลในบ้านให้อยู่ดีกินดี มีความสขุ ดังนั้น ชาวบ้านไทยทรงดำจึงต้องมีสิ่งศักดิ์สิท์ที่เรียกว่า กะล้อห่องทุกบ้านเรือนเพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกๆบ้านจำต้องมีเพราะว่าจะมีประเพณีการไหว้การเลี้ยงผี เพื่อทำความเคารพกราบไหว้แสดงความนับถือเคารพ
ในบรรดาผีร้ายชนิดต่างๆ ผีใหญ่ เป็นผีที่น่ากลัวที่สุด มีลักษณะเป็นดวงไฟกลม มีตา ปาก ขาเล็กๆ ถ้าใครเห็นผีใหญ่แล้วเรียกทัก คนนั้นจะตาย การกำจัดผีใหญ่มีวิธีเดียว ก็คือ ใช้กะลาตาเดียวบด ใส่ดินปืน แล้วใส่ปืนลูกซองยิง ปืนก็ต้องเป็นมือลูกซองของพ่อม่ายลงอักขระจากพระ ยิงนัดเดียวร่างผีใหญ่ก็จะแตกกระจาย แต่ก็ยังไม่เคยมีใครสามารถทำได้ เป็นเพียงแค่คำบอกเล่าของบรรพบุรุษถึงวิธีการปราบผีใหญ่
ผีโพรง เป็นผีที่ดุร้ายอีกชนิดหนึ่ง แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้เเก่ ผีโพรงเป็น คือเป็นมาตั้งเเต่เกิด เเละ ผีโพรงติด คือ ติดจากน้ำลาย เเละเลือด เช่น กินข้าวช้อนเดียวกัน ผีโพรง ในเวลากลางวันจะเหมือนผู้คนธรรมดาๆทั่วไป แต่ตกกลางคืนจะกลายร่างเป็นผีโพรง มีจุดเด่นคือ มีแสงสว่างหรือดวงไฟที่รูจมูก และชอบกินของสกปรกเเละมีกลิ่นคาว เช่นศพ หรือรกเด็กเกิดใหม่ เช่นเดียวกับผีกระสือ, ผีกระหัง หรือผีปอบ
|
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับที่บรรพบุรุษเล่าขานต่อกันมาสู่รุ่นหลาน แม้จะไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่
หากก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการนับถือผีบรรพบุรุษของชาวไทยทรงดำเป็นสิ่งที่มีคุณค่า เพราะปลูกฝังให้ลูกหลานมีค่านิยมที่ดี มีความกตัญญูแก่บรรพบุรุษ ทั้งยังเปิดช่องให้ลูกหลานที่แยกย้ายไปทำงานต่างถิ่นได้กลับมารวมญาติพร้อมหน้าพร้อมตากัน เพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษผู้จากไป
|